นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยถึงราคาที่ดินในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาราคาที่ดินไม่เคยขึ้นถึงปีละ 30% แต่ปัจจุบันปรากฏว่ามีบางทำเลเพิ่มขึ้นเกิน 30% แล้ว ทั้งนี้ เพราะอุปทานที่ดินมีจำกัด ไม่มีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างผู้ขายก็ไม่จำเป็นต้องขาย ตลาดเลยกลายเป็นของผู้ขาย ขายได้แล้วก็แทบไม่ต้องเสียภาษีอะไรมากนัก ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม
“จากการสำรวจพบว่า บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอุดมสุข ในรัศมีไม่เกิน 500 เมตร มีราคาที่ดินสูงสุดที่ 450,000 บาทต่อตารางวา (ตร.ว.) แต่ปรากฏว่าในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ราคาเพิ่มขึ้นถึง 32% เทียบกับปีที่ผ่านมาโดยเป็นผลจากอิทธิพลของรถไฟฟ้าบีทีเอสโดยตรง เนื่องจากตลาดมีความต้องการสร้างโครงการอาคารชุดตามแนวรถไฟฟ้าสายนี้ เมื่อสร้างแล้วก็ปรากฏว่าขายได้ดีพอสมควร จึงทำให้ราคาที่ดินพุ่งขึ้นอย่างชัดเจน”
อันดับรองลงมาเพิ่มขึ้น 29% คือบริเวณถนนลาดพร้าว ตรงโรงเรียนปานะพันธ์ (เดิม) และสถานีรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีลาดพร้าว ราคาล่าสุดอยู่ที่ 450,000 บาทต่อ ตร.ว. ทั้งนี้ จะเห็นว่าทั้ง 2 แปลง มีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเร็วมาก เพราะตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน ย่านนี้มีโอกาสเติบโตสูง เพราะนอกจากมีรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีแล้ว ขณะนี้รถไฟฟ้าบีทีเอสก็กำลังขยายเส้นทางไปตามถนนพหลโยธินถึงย่านคูคตอีกด้วย ดังนั้นศักยภาพจึงเพิ่มขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม ยังมีที่ดินที่ราคาเพิ่มขึ้นถึง 25% เทียบกับปีที่ผ่านมาอีก 11 บริเวณ ซึ่งล้วนแต่เป็นที่ดินบริเวณที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีแทบทั้งสิ้น อาทิ ห้าแยกลาดพร้าว ราคา 500,000 บาทต่อ ตร.ว., สถานีเอ็มอาร์ทีสุขุมวิท ราคา 2,000,000 บาทต่อ ตร.ว. และสถานีบีทีเอสปุณณวิถี ราคา 450,000 บาทต่อ ตร.ว. เป็นต้น.
...