SC ASSET เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก ยอดขายพุ่ง 7,493 ลบ. เติบโต 44% จ่อเปิด 9 โครงการใหม่แนวราบ มูลค่า 11,450 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว “เวิร์ฟ” ทาวน์โฮมน้องใหม่ราคาจับต้องได้ เริ่ม 2.59 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้า 2 หมื่นล้านบาทในปี 62
วันที่ 4 ส.ค.60 เวลา 15.00 น. ที่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ได้มีการจัดแถลงข่าวงาน 2017 Mid-Year Review โดย นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการกลางปีของ เอสซี แอสเสท ซึ่งแบ่งเป็นผลประกอบการครึ่งปีแรก และแผนประกอบการครึ่งปีหลัง สำหรับผลสำเร็จของการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีแรก สรุปได้ 2 เรื่อง คือ
1. การเติบโตของยอดขายครึ่งปีแรกมียอดขายรวม 7,493 ล้านบาท เติบโต 44% (yoy) ซึ่งมาจากผลตอบรับที่ดีจากยอดขายแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม 4,491 ล้านบาท เติบโต 14% (yoy) ขณะที่ยอดขายแนวสูง เช่น คอนโดฯ 3,002 ล้านบาท เติบโต 137% (yoy)
2. สื่อออนไลน์มีประสิทธิภาพสูง โดยแนวราบในครึ่งปีแรกได้รับยอด walk-in จากสื่อนี้ถึง 30% ดังนั้นทำให้ค่าใช้จ่ายการตลาดลูกค้าแวะต่อคนลดลง 5 เท่าจาก Traditional media ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายการตลาดต่อยอดขายบ้านเดี่ยวลดลง และที่น่าสนใจคือยอดขายที่มาจากสื่อออนไลน์เติบโตอย่างเนื่อง 3 ปี โดยในปี 2015 มียอดขายที่มาจากสื่อออนไลน์ 14% ต่อมาในปี 2016 เติบโต 24% และในปัจจุบัน 30% ตามลำดับ ซึ่งยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“จากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 3.2% เป็น 3.5% โดยปัจจัยหลักเป็นเรื่องการลงทุนภาครัฐ รวมถึงภาคการส่งออกและท่องเที่ยวที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง แต่ภาคลงทุนเอกชนและการบริโภคนั้นยังคงไม่เติบโตเท่าที่ควร ซึ่งสิ่งที่ผมกับทีมกังวลก็คือเรื่องของหนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ณ ปลายไตรมาส 1/2560 สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ลดลงเหลือ 78.6% แต่สินเชื่อกลุ่มที่อยู่อาศัยขยายตัวแบบชะลอตัว สวนทางกับสัดส่วน housing NPLs ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 3.23% ในรอบ 6-7 ปี แสดงให้เห็นว่าคนก่อหนี้ใหม่ได้ยากขึ้น ส่งผลต่อความเข้มงวดของธนาคารในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ไม่สามารถวางแผนการใช้เงินอนาคต
...
อย่างไรก็ตามพบว่า เอสซี แอสเสท มียอดปฏิเสธสินเชื่อธนาคารเฉพาะแนวราบในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาประมาณ 10% ซึ่งไม่แตกต่างจากปีที่แล้วนัก โดยสัดส่วนการชำระเงินสดเฉพาะในกลุ่ม luxury segment สูงถึง 50% สูงกว่าปีที่ผ่านมา สรุปได้ว่า ความต้องการที่จะซื้อ (demand) ในตลาดยังมีการเติบโต แต่สถานการณ์ของหนี้ทำให้ความสามารถในการใช้เงินอนาคตน้อยลง จึงมีแนวโน้มที่จะใช้เงินปัจจุบันมากขึ้น"
นายณัฐพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายยอดขายตั้งไว้ที่ 16,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 14,800 ล้านบาท และเชื่อว่าจะทำได้ตามเป้าหมายนี้ โดยแผนครึ่งปีหลังจะเปิดแนวราบทุกระดับราคา จำนวน 9 โครงการใหม่ มูลค่า 11,450 ล้านบาท ซึ่งทำเลจะกระจายอยู่ใน กทม. และปริมณฑล และปลายปีจะเปิดแบรนด์ใหม่ชื่อ เวิร์ฟ (Verve) ซึ่งเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาเริ่ม 2.59 ล้านบาท ซึ่งมีโครงการใหม่ทั้งหมดแบ่งเป็น 5 แบรนด์ ดังนี้
1. The Gentry โครงการเดอะ เจนทรี พระราม 9 บ้านหรู ราคาเริ่ม 30 ล้านบาท เป็นบ้าน 3 ชั้น ขนาด 5 ห้องนอน
2. Bangkok Boulevard ซึ่งจะเปิด 5 ทำเล ได้แก่ โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รังสิต, สาทร-ราชพฤกษ์, ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์, แจ้งวัฒนะ และ สาทร-ปิ่นเกล้า ราคาเริ่ม 6-20 ล้านบาท
3. Pave โครงการเพฟ รามอินทรา-วงแหวน ราคาเริ่ม 4 ล้านต้น
4. Work Place โครงการเวิร์คเพลส แจ้งวัฒนะ จะเป็นโฮมออฟฟิศ ราคาเริ่ม 9 ล้านบาท
5. Verve โครงการเวิร์ฟ เพชรเกษม 81 ราคาเริ่ม 2.59 ล้านบาท
“เวิร์ฟ เป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดของเอสซี แอสเสท เป็นทาวน์โฮม โดยจะเปิดโครงแรกไตรมาส 4 ที่เพชรเกษม 81 เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ผ่อนเดือนละหมื่นกว่าบาท หลักคิดคือกลุ่มลูกค้าอายุประมาณ 25-30 ปี เช่นคนที่เรียนจบมาประมาณ 1-2 ปีก็เก็บเงินได้ บางคนก็ทำงานบริษัท และบางคนมีธุรกิจส่วนตัวก็อยากย้ายออกมาจากบ้านของพ่อแม่มาอยู่ที่ของตัวเอง ตรงจุดนี้เองที่เราเข้าถึงความต้องการของลูกค้าจึงได้ผลิตแบรนด์นี้ออกมา”
...
สรุปในปีนี้ เอสซี แอสเสท มีโครงการเพื่อขายทั้งหมดรวมทั้งโครงการเก่าและใหม่ 44 โครงการ มูลค่ารวม 44,135 ล้านบาท ทั้งในแนวราบและแนวสูง แบ่งเป็น โครงการระหว่างการพัฒนา จำนวน 35 โครงการ พร้อมกับอีก 9 โครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ได้ปรับเพิ่มงบซื้อที่ดินเพิ่มเป็น 9,100 ล้านบาท สำหรับงบลงทุนซื้อที่ดินในปีนี้ 9,100 ล้านบาท
และจากการที่ เอสซี แอสเสท ได้ประกาศยุทธศาสตร์เรื่อง human-centric innovation เมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นมีการขยายธุรกิจใหม่และลงทุนใน platform เรื่องบริการหลังการขายกับ tech startup ที่ชื่อว่า “Fixzy” โดยแผนครึ่งปีหลัง เอสซี แอสเสท จึงได้ร่วมพัฒนา iOT smarthome platform ที่ชื่อ “Rue Jai ™ (รู้ใจ™)” สำหรับลูกค้าของเอสซี แอสเสท โดยร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ AIS ให้เป็น smarthome platform ที่พัฒนาโดยคนไทย และเพื่อคนไทย ซึ่งเชื่อว่า platform จะสร้างความสะดวกสบายและสร้างความปลอดภัยให้กับชีวิตคนในบ้าน พร้อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณปลายปีนี้
...
อีกเรื่องคือ SC 4.0 housing prototypes ได้มีการใช้ design thinking ในการออกแบบ prototype สำหรับบ้านคอนเซปต์ในอนาคต โดยจะเริ่มเปิดตัวในโครงการต่างๆ ในช่วงไตรมาส 4/2560 นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มลูกค้าที่มาซื้อบ้านและมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ คือ กลุ่มคนโสด โดยกลุ่มคนโสดจะมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากคนมีครอบครัว เราจึงเรียกโปรเจกต์นี้ว่า “The new normal” เพื่อคนที่ชอบใช้ชีวิตแบบคนโสด ซึ่งรวมไปถึงคนที่อยู่กันแบบ 2 คน เช่น กลุ่มพ่อกับลูก แม่กับลูก พี่กับน้องอยู่ด้วยกัน โดยพบว่าคนกลุ่มนี้ต้องการบ้านขนาดใหญ่เท่าเดิมแต่อยากให้ห้องนอนมีขนาดใหญ่ขึ้นและจำนวนห้องนอนที่น้อยลง
นายณัฐพงศ์ สรุปอย่างมั่นใจว่า “ด้วยแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกทั้งหมดนี้ จะสนับสนุนและส่งเสริมแผนการเติบโตต่อเนื่อง 3 ปี ทำให้ SC มีรายได้ทะลุเป้าหมาย 20,000 ล้านบาท ในปี 2562”