ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 27 มี.ค.นี้ ร้านค้าพาร์ตเนอร์ร้านถูกดี มีมาตรฐาน จำนวนมาก จะเดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เพื่อยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมประกอบการร้องเรียน กรณีที่ก่อนหน้านี้ ร้านพาร์ตเนอร์ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ว่า บริษัทที่เป็นเจ้าของร้านถูกดี มีมาตรฐาน ทำสัญญาเอาเปรียบ และมีพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ร้านพาร์ตเนอร์ได้รับผลกระทบจำนวนมาก โดยหลังจากยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว จะเดินทางไปร้องเรียนที่กองปราบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความผิดอื่นๆต่อไป

สำหรับการร้องเรียนดังกล่าว ล่าสุด กขค.อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ อันเกี่ยวกับการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการแข่งขันทางการค้าและเพื่อรู้ตัวผู้กระทำความผิดได้ หลังจากนั้นจะสรุปแล้วเสนอต่อ กขค. เพื่อประกอบการพิจารณารับเรื่องร้องเรียน หาก กขค.พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องร้องเรียนไม่มีมูล ก็จะสั่งให้ยุติเรื่อง แต่หากเห็นว่ามีมูลก็อาจให้ตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ก่อนจะเสนอให้ กขค.มีคำวินิจฉัยต่อไป หากมีความผิดก็จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย

ด้านนายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการ กขค. กล่าวว่า ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กขค.ได้พิจารณาเรื่องร้องเรียน 25 เรื่อง โดยเป็นเรื่องร้องเรียนใหม่ และการขอคำวินิจฉัยล่วงหน้า อย่างละ 1 เรื่อง, อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริง 11 เรื่อง, อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน 9 เรื่อง และอยู่ระหว่างพิจารณาความผิดทางปกครอง 3 เรื่อง โดยการดำเนินการส่วนใหญ่มีความคืบหน้าเกินกว่า 50% และมีเรื่องแล้วเสร็จ 2 เรื่อง ได้แก่ ธุรกิจแฟรนไชส์ และธุรกิจรถยนต์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนส่งบันทึกรายงานผลการแสวงหาข้อเท็จจริงเสนอต่อ กขค.พิจารณา
“เรื่องร้องเรียนทั้งหมดประมาณ 70% เป็นกรณีความผิดตาม
มาตรา 57 พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม โดยเรื่องร้องเรียนที่ผู้ร้องเรียนร้องเข้ามายังสำนักงาน กขค. ส่วนใหญ่ผ่านทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ และร้องเรียนด้วยตนเองที่สำนักงาน”.

...