กลยุทธ์ของการสร้างนวัตกรรมเพื่อทรานส์ฟอร์มตัวเองของบริษัทดั้งเดิมขนาดใหญ่ ที่นอกเหนือจากการเพิ่มงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาภายในองค์กรเองแล้ว หนึ่งในวิธีการที่เห็นได้บ่อยที่สุด คือ การลงทุนเชิงกลยุทธ์ในสตาร์ทอัพอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ และสามารถหาแนวทางการทำ Synergy ร่วมกันได้ในอนาคต เช่นเดียวกับ กลุ่มเจมาร์ท ซึ่งมี บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (J Ventures) ที่หลายคนอาจจะมีภาพจำว่า เป็นผู้สร้าง JFIN Coin แต่จริงๆ แล้วบทบาทหลัก คือ หน่วยธุรกิจที่มีหน้าที่พัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีและ Digital Transformation ให้กับเครือ ตลอดจนได้มีการลงทุนในสตาร์ทอัพ รวมถึงบริษัททด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง โดยในพอร์ตโฟลิโอปัจจุบันรวมทั้งสิ้นกว่า 13 รายด้วยกัน ดังนี้ 

บริษัท ทีทูพี จำกัด (T2P) สตาร์ทอัพด้าน FinTech ให้บริการโซลูชั่นแบบครบวงจรเพื่อธุรกรรมด้านการเงินแก่ลูกค้าองค์กรแบบ B2B2C

บริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด สตาร์ทอัพด้าน FinTech ผู้ให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์ ChillPay

บริษัท ดีพสปาร์คส์ เพียร์ เลนดิ้ง จำกัด (DeepSpark) ในเครือ T2P สตาร์ทอัพผู้ให้บริการทางการเงินที่ใช้เทคโนโลยี AI เป็นเครื่องมือหลัก ที่ได้เข้าเข้าทดสอบการให้บริการในวงจำกัด ภายใต้ Regulatory Sandbox ของ ธปท. เป็นรายแรก

บริษัท ซาโตชิ จำกัด แพลตฟอร์มทางการเงินรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เป็นผู้ให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ (Decentralized exchange) ภายใต้แบรนด์ที่ชื่อว่า KULAP ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อย

JP2P ระบบสินเชื่อ P2P ในเครือ Jmart ที่เชื่อมโยงผู้ลงทุนให้กู้ยืมเงินกับบุคคล (Peer-to-Peer) โดยมี JFIN เป็นแพลตฟอร์ม DCF ที่จะช่วยลดต้นทุนของตัวกลางที่มีส่วนร่วมในการทำธุรรมได้ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสามารถได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้ รวมถึงคนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นด้วย

บริษัท โทเคไนน์ จำกัด (tokenine) บริษัทด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนโซลูชัน บริการให้คำปรึกษาและพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่ผ่านมาได้มีการจับมือกับ JFIN เปิดตัวแพลตฟอร์ม JREPO สำหรับ ฝาก และ กู้สินทรัพย์ดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance)

SafeBSC แพลตฟอร์ม Yield Farming Plotfolio ติดตามการลงทุนในโลก DeFi
บนเครือข่าย BSC (Binance Smart Chain)

...

บริษัท เจดีเอ็น จำกัด หรือ JDN Exchange Network ทำหน้าที่บริหารจัดการบล็อกเชน JFIN Chain โดยเฉพาะ

บริษัท เอวานทิส แลบอราทอรี (ประเทศไทย) จำกัด (Avantis Laboratory) เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านการเงิน (Financial Technology) เช่น Tokenization Asset

Todaq Holding สตาร์ทอัพด้าน blockchain ที่ดูไบ โดยเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับธุรกิจ ปัจจุบันมี Blockchain เป็นของตัวเอง

SMILE MONEY สตาร์ทอัพด้าน FinTech ที่อังกฤษ บริษัทแม่ของ Kogo Pay โมบายเพย์เมนต์ มีฟังก์ชันการใช้งานหลัก คือ การทำธุรกรรมการเงินผ่านมือถือทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยใช้ QR Code ในการชำระเงิน

บริษัท เค อินโนเวชั่น จำกัด (K Innovation) บริษัทด้าน Digital Marketing ให้บริการจัดทำโฆษณาผ่านระบบซอฟต์แวร์

บริษัท ฮับบา จำกัด (Hubba) เป็น Coworking Space แห่งแรกในประเทศไทย รวมถึงมีการจัดทำ Accelerator ช่วยเร่งการเติบโตให้กับสตาร์ทอัพด้วย

ทั้งนี้บริษัทสตาร์ทอัพต่างๆ ที่ J Ventures เข้าไปลงทุน หรือปั้นภายในองค์กรของ Jmart เองก็ตาม เหล่านี้ล้วนเข้าเป็นพันธมิตรที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจทั้งหมด และในอนาคตมีแพลนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรอีกหลายรายเพื่อมาร่วมสร้าง DX (Digital Transformation) ให้เกิดขึ้น โดยมุ่งเน้นขยายพันธมิตรใน 2 ด้าน ได้แก่ พันธมิตรด้านเทคนิค (Tech Partner) สร้างเทคโนโลยีและโซลูชันต่างๆ และพันธมิตรธุรกิจ (Business Partner) ที่ J Ventures จะเข้าไปช่วยทำ DX (Digital Transformation) เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจหมด