ก.ล.ต.ขอให้พนักงานอัยการฟ้อง Bitkub และ Satang Pro กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 65 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง หรือ ค.ม.พ. มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด ได้แก่ 1.บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด 2.นายอนุรักษ์ เชื้อชัย และ 3.นายสกลกรย์ สระกวี
กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub ของบริษัทบิทคับ โดยการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งให้ชำระเงินรวม 24,161,292 บาท รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร
แต่เนื่องจากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ.กำหนด จึงพิจารณาได้ว่า ผู้กระทำความผิดดังกล่าวไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต.จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวมทั้งสิ้น 24,161,292 บาท
กำหนดห้ามนายอนุรักษ์ และนายสกลกรย์ ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และห้ามเป็นกรรมการ หรือผู้บริหาร ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยให้นายสกลกรย์ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบริษัทบิทคับอย่างลูกหนี้ร่วม
นอกจากนี้ ค.ม.พ. มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด บริษัท LLC Fair Expo Mr. Mikalai Zahorski กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Satang Pro ของบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
...
โดยการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ชำระเงินรวม 12,080,646 บาท รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลและกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร
แต่เนื่องจากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ.กำหนด จึงพิจารณาได้ว่า ผู้กระทำความผิดดังกล่าวไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต.จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวมทั้งสิ้น 12,080,646 บาท
กำหนดห้าม Mr. Mikalai ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยให้ Mr. Mikalai ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบริษัท LLC Fair Expo อย่างลูกหนี้ร่วม.