น.ส.กนิษฐา กังสวนิช รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ในปีนี้กรมมีแผนที่จะผลักดันการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) 18 รายการ อาทิ ครกหินแกรนิตตาก จ.ตาก และเผือกหอมบ้านหมอ จ.สระบุรี เป็น 2 รายการล่าสุดที่เพิ่งได้รับการขึ้นทะเบียน และยังมีสินค้าที่รอการขึ้นทะเบียนอีก เช่น ส้มโอปราจีน, มะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการ, ผ้าตีนจกโหล่งลี้ลำพูน, ผ้าไหมปักธงชัย จ.นคร ราชสีมา, ผ้าไหมสาเกต จ.ร้อยเอ็ด, มันแกวบรบือ จ.มหาสารคาม, พุทรานมบ้านโพน จ.กาฬสินธุ์

หลังจากขึ้นทะเบียนจีไอใหม่ 2 รายการไปแล้ว ทำให้ปัจจุบันมีสินค้าจีไอที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด 172 สินค้า แบ่งเป็น สินค้าจีไอของไทย 154 สินค้า และสินค้าจีไอของต่างประเทศ ที่มาขึ้นทะเบียนในไทยอีก 18 สินค้า นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่อยู่ระหว่างพิจารณาอีก 86 คำขอ เป็นสินค้าไทย 73 คำขอ ต่างชาติ 13 คำขอ, อยู่ระหว่างประกาศโฆษณา 4 คำขอ โดยการขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอ สร้างมูลค่าทางการตลาด 40,000 ล้านบาทต่อปี”

นอกจากนี้ กรมยังจะลงพื้นที่แหล่งผลิต เพื่อรับฟัง ข้อเท็จจริง ตรวจสอบสินค้าที่มีโอกาสขึ้นทะเบียนมีเป้าหมาย 20 รายการ เช่น ทุเรียนทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี, ปลาเม็งสุราษฎร์ธานี และข้าวหอมไชยา จ.สุราษฎร์ธานี, ลำไยจันท์ จ.จันทบุรี, ผลิตภัณฑ์กระจูดเมืองแกลง จ.ระยอง, ผ้าอุทัยธานี จ.อุทัยธานี, หินอ่อนพรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร, พริกกะเหรี่ยงท่าสองยาง รวมทั้งมีแผนช่วยจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนจีไอรายการใหม่ๆ โดยจะลงพื้นที่ไปประชุมหารือร่วมกับจังหวัด หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เกษตรกร และผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดทำคำขอขึ้นทะเบียน รวม 6 สินค้า อาทิ ครุน้อยศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ.

...