ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ก.พ.65 ปิดที่ 1,669.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.30 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 68,034.20 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 54.09ล้านบาท

“เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม” หัวหน้าสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เผยในงานเปิดมุมมองการลงทุนกับเซียนหุ้นพันล้าน (เสี่ยป๋อง) และทีมวิจัย บล.เอเซีย พลัส ว่า มองตลาดหุ้นปีนี้ ยังเป็น Positive ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสไปได้ถึง 1,810 -1,860 จุด มีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การลดขนาดงบดุล ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยเฉพาะวิธีการดึงเงินออกจากระบบ แต่เชื่อว่า ภายในไตรมาส 1-2 จะยังไม่ทำอะไรมากนัก ส่วนหุ้นกลุ่มที่น่าจะโดดเด่นปีนี้ คือ รับเหมา วัสดุก่อสร้าง ค้าปลีก แบงก์

ขณะที่ “นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิจัย มองภาพรวมกลุ่มพลังงานปีนี้ ว่า ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงผิดปกติ และไม่ได้สะท้อนดีมานด์-ซัพพลายที่แท้จริง ทำให้มีโอกาสเห็นการปรับตัวลงของราคาน้ำมันได้ แนะนำให้ Selective Buy เป็นรายตัว เช่น PTT และ PTTEP ที่น่าจะมีกำไรที่แข็งแกร่งมากในปี 65 และหุ้นตัวที่มีโรงกลั่นเป็นสัดส่วนสูงจะมีความน่าสนใจ เช่น หุ้น TOP เป็นต้น

ด้าน “ประสิทธิ์ รัตนกิจกมล” ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย ให้มุมมองหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างว่า ปี 65 มีทิศทางดีขึ้นกว่าปีที่แล้วที่ได้รับ ผลกระทบจากราคาเหล็กเส้นที่สูงขึ้น และวิกฤติโควิดที่รุนแรงทำให้ต้องปิดแคมป์คนงาน แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากงานประมูลภาครัฐ โดยปีนี้น่าจะมีโครงการภาครัฐออกมาต่อเนื่องกว่า 9 แสนล้านบาท หากประมูลได้ 3 แสนล้านบาท มองหุ้นที่ได้อานิสงส์มากสุด คือ CK และ PYLON

ส่วน “นวลพรรณ น้อยรัชชุกร” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเอเซียพลัส มองหุ้นอสังหาริมทรัพย์น่าสนใจหลายตัว จากการเปิดโครงการใหม่ รวมถึงมาตรการภาครัฐและการปรับเงื่อนไข LTV ทำให้ตลาดคึกคัก ถือเป็นกลุ่มที่คาดว่ากำไรจะดีขึ้นกว่าปี 64 หุ้นกลุ่มนี้บางตัวยังมีปันผลที่น่าสนใจ 4-6% สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก

...

ปิดท้าย “วัชระ แก้วสว่าง” เสี่ยป๋องขวัญใจชาวหุ้น ให้ความเห็นว่า หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ คือกลุ่มแบงก์ สื่อสาร และรับเหมา ส่วนตัวไม่ค่อยเน้นหุ้นปันผล แต่ชอบได้กำไรจากราคาหุ้นมากกว่า และหุ้นบางตัวก็ได้เงินปันผลเป็นของแถม กลยุทธ์ลงทุนหากเป็นช่วงหุ้นขาลง แนะนำถือเงินสด ส่วนตัวไม่ซื้อหุ้นขาลง รอให้แรงเทขายหมดก่อน ถึงซื้อจะดีกว่า เพราะเน้นดูเทคนิค ดูกราฟ ดูโมเมนตัมของราคาหุ้นมากกว่า!!

อินเด็กซ์ 51