บลจ.กสิกรไทย มองเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้น โดยเฉพาะหุ้นเอเชียโตโดดเด่น แนะทยอยเก็บเข้าพอร์ตรออนาคตเติบโต

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 65 นายสุรเดช เกียรติธนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกยังคงขยายตัวต่อไปได้ ในขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ ภูมิภาคอาจไม่เท่ากัน โดยกลุ่มที่ฟื้นตัวช้าในปีที่ผ่านมาจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีในปีนี้

โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของตลาดหุ้นเอเชียที่โดดเด่นกว่าฝั่งประเทศที่พัฒนาแล้วจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับการประเมินมูลค่าหุ้น หรือ Valuation ยังคงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ และยุโรป อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังควรต้องติดตามสถานการณ์แพร่ระบาด และการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางประเทศแกนหลัก

สำหรับตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยคาดว่ากิจกรรมเศรษฐกิจภายในประเทศจะฟื้นตัวได้หลังจากที่สถานการณ์แพร่ระบาดคลี่คลายลง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแผนการฉีดวัคซีน รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล ซึ่งล่าสุดได้ประกาศโครงการช้อปดีมีคืนเมื่อต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

...

ทั้งนี้ ลูกค้าที่ลงทุนในกองทุนรวมกสิกรไทย สามารถนำค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน หรือ Front-end Fee และค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน หรือ Back-end Fee ที่เกิดจากการซื้อหรือขายกองทุนในระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 65 มาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท

สำหรับกองทุนรวมจากกสิกรไทยที่เข้าร่วมโครงการฯ มีให้เลือกมากมายหลากหลายนโยบายการลงทุนทั้งกองทุนหุ้นต่างประเทศ กองทุนหุ้นไทย กองทุนหุ้นดัชนี และกองทุนผสม อาทิ K-CHANGE, K-CLIMATE, K-ASIA, K-ATECH, K-JP, K-CHINA, K-VIETNAM, K-STAR, K-GINCOME และ Index Funds เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเริ่มต้นของปีนับเป็นโอกาสอันดีที่อยากจะแนะนำให้ผู้ลงทุนเข้าลงทุนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากโครงการช้อปดีมีคืน ในขณะเดียวกันยังเป็นการเพิ่มโอกาสรับตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาวอีกด้วย