วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุยเรื่อง “การลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี” กันนะครับ ช่วงปลายเดือนธันวาคมทุกปี เป็นช่วงการลงทุนเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี ถ้ามีการวางแผนการลงทุนที่เหมาะสม นอกจากช่วยประหยัดภาษีได้จำนวนมาก ยังช่วยออมเงินระยะยาวไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณอีกด้วย คนไทยยุคนี้มีอายุขัยยืนยาวขึ้น อายุเฉลี่ยผู้ชายไทย 73.5 ปี อายุเฉลี่ยผู้หญิง 80.5 ปี หลังเกษียณอายุ 60 ปี ยังต้องใช้ชีวิตต่อไปอีกอย่างน้อย 20 ปี ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่ในยุคนี้อาจมีอายุยืนยาวกว่า 80 ปีแน่นอน

ช่วงเวลา 20 ปีหลังเกษียณเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตที่สำคัญ ทำอย่างไรจึงจะมีเงินใช้อย่างเพียงพอในชีวิตประจำวัน รวมทั้ง การไปท่องเที่ยวพักผ่อน ค่ารักษาพยาบาล อีก 20 ปี

มีคนถามเสมอๆว่า ต้องมีเงินออมเท่าไร จึงจะพอใช้หลังเกษียณ ถ้าวันนี้คุณมีอายุ 30 ปี ขอบอกว่ารีบออมเงินเถอะ อีก 30 ปีข้างหน้าเมื่อคุณอายุ 60 ปี คุณต้องมีเงินออมอย่างน้อย 11 ล้านบาท จึงจะมีเงินใช้อย่างเพียงพอแบบไม่ฟุ่มเฟือย ธนาคารแห่งประเทศไทย ทำตัวเลขไว้ว่า ถ้าวันนี้คุณมีอายุ 30 ปี เกษียณอายุตอน 60 ปี คาดว่าจะมีชีวิตอยู่ถึง 80 ปี อยากมีเงินใช้หลังเกษียณเดือนละ 20,000 บาท (ไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษต่างๆ เช่น รักษาพยาบาล ไปท่องเที่ยว ซ่อมแซมบ้าน เปลี่ยนรถยนต์) ตอนเกษียณ 60 ปี คุณต้องมีเงินออมอย่างน้อย 11 ล้านบาท ไม่น้อยเลยนะครับจะบอกให้

แบงก์ชาติ คิดโดยคำนวณอัตราเงินเฟ้อตลอด 30 ปี ก่อนเกษียณที่เพิ่มขึ้นทุกปี สมมติว่าเงินเฟ้ออยู่ที่ 3% ต่อปี เงิน 20,000 บาทในวันนี้อีก 30 ปีข้างหน้าจะกลายเป็น 43,545 บาท การวางแผนการเงินวันนี้ คุณจะต้องลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 4% เพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ 3% เพื่อให้มีเงินพอใช้จนถึงอายุ 80 ปี ถ้าคุณมีเงินออมภาคบังคับ เช่น กองทุนประกันสังคม กบข. หรือลงทุนเองด้วยความสมัครใจ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (SSF/RMF) ประกันชีวิตแบบบำนาญ ก็จะได้เงินอีกก้อนหนึ่งนอกจากเงินเกษียณ

...

วารสารการเงินธนาคาร เดือนธันวาคม ได้จัดทำตารางเงินเดือนเพื่อการลงทุนใน กองทุน SSF/RMF เพื่อลดหย่อนภาษี ได้น่าสนใจยิ่ง เช่น ฐานเงินเดือน 30,000 บาท 50,000 บาท 70,000 บาท และ 100,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายส่วนตัวแล้ว เงินได้สุทธิต้องเสียภาษี 2,500 บาท 21,500 บาท 54,500 บาท และ 125,000 บาท ตามลำดับ แต่ถ้ามีการวางแผนภาษีด้วยการ ลงทุนในกองทุนรวมและประกันชีวิตเพื่อลดหย่อน ภาษี สุดท้ายแล้ว ฐานเงินเดือน 30,000 บาท 50,000 บาท ไม่ต้อง เสียภาษีเงินได้เลย ประหยัดภาษีได้ 2,500—21,500 บาท และ ฐานเงินเดือน 70,000 บาท 100,000 บาท จะมีเสียภาษีแค่ 3,900 บาท และ 33,500 บาท ประหยัดภาษีได้ 50,600—91,500 บาท มากโขทีเดียว

ช่วงนี้ บริษัทจัดการกองทุน แข่งกันเปิดตัว กองทุนลดหย่อนภาษี จำนวนมาก มีทั้งกองทุนที่เหมาะสำหรับ ผู้มีอายุไม่เกิน 45 ปี และ ผู้มีอายุเกิน 45 ปี เช่น กองทุนผสม ที่มีความเสี่ยงปานกลาง กองทุนหุ้นเทคโนโลยี ที่มีความเสี่ยงระดับสูง กองทุนหุ้นทั่วโลก ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนสูง อีกตัวที่น่าสนใจคือ กองทุนหุ้นเวียดนาม แม้จะมีความเสี่ยงสูง แต่คาดกันว่าปีหน้าเศรษฐกิจเวียดนาม จะเติบโตได้ 6-7% จึงถือว่าน่าสนใจมาก

การลงทุนเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเพิ่มรายได้เงินออมให้สูงกว่าเงินฝากและเงินเฟ้อ ใครยังตัดสินใจไม่ได้ อยากจะแนะนำว่า ช่วง

วันที่ 23-26 ธันวาคมนี้ ที่ฮอลล์ 9-12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี จะมี งานมหกรรมการเงิน Money Expo กรุงเทพฯ ครั้งที่ 21 จัดโดย วารสารการเงินธนาคาร ภายในงาน มีกองทุนและประกันชีวิตให้เลือกลงทุนมากมาย และ มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการลงทุนด้วย การออมเงินเพื่อใช้หลังเกษียณเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เกษียณอายุ 60 แล้วมีเงินไม่พอใช้จ่าย ชีวิตลำบากแน่นอน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”