บลจ.บีแคป เผยกองทุน BCAP-GMA กองทุน BCAP -GMA Plus ไม่ได้ลงทุนในแฟนตาเซีย โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนที่ผิดนัดชำระหนี้

ดร.ธนาวุฒิ พรโรจนางกูร รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าสายงานบริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บางกอกแคปปิตอล จำกัด หรือ BCAP กล่าวว่า กรณีที่บริษัท แฟนตาเซีย โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มียอดขายอันดับ 66 ของประเทศจีน (เทียบกับ Evergrande ที่อยู่อันดับที่ 2) ได้ผิดนัดชำระหนี้แบบจงใจ หรือ deliberate default จำนวน 206 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่งผลลบต่อ sentiment การลงทุนในตลาดการเงินและภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน และส่งแรงกดดันต่อการเร่งดำเนินนโยบายหรือการออกกฎระเบียบในการควบคุมและช่วยเหลือผู้เกี่ยวข้องและผู้ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ ในส่วนของ บลจ.บีแคป ขอชี้แจงว่า กองทุนภายใต้การจัดการของ บลจ.บีแคป ไม่ได้มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ของ แฟนตาเซีย โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีปัญหาผิดนัดชำระหนี้อยู่ในขณะนี้

สำหรับกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล มัลติ แอสเซท หรือ BCAP-GMA และกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล มัลติ แอสเซท พลัส หรือ BCAP -GMA Plus มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกู้จีนที่เป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อยู่เพียงเล็กน้อย หรือ ไม่ถึง 0.10% ของพอร์ตการลงทุน

...

ดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีผู้ประกอบการรายอื่นในกลุ่มนี้ผิดนัดชำระหนี้เพิ่มเติม ก็จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงอย่างมีนัยสำคัญต่อกองทุน เนื่องจากมีสัดส่วนในระดับต่ำมากๆ อย่างไรก็ตาม บลจ.บีแคป จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และรายงานให้นักลงทุนทราบเมื่อมีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

ดร.ธนาวุฒิ กล่าวอีกว่า บลจ.บีแคปได้ร่วมกับ PICTET ไพรเวตแบงก์ชั้นนำของโลก สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ จัดตั้งกองทุน BCAP-GMA และ BCAP-GMA Plus และจดทะเบียนกองทุนเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 64 โดย BCAP-GMA เป็นกองทุนแบบ conservative ลงทุนในกองทุนต่างประเทศรวมกว่า 20 กองทุน เน้นลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายในต่างประเทศทั่วโลกที่มั่นคงและมีความเสี่ยงต่ำ โดยประมาณ 80% ลงทุน ในเงินฝาก พันธบัตร หุ้นกู้ และอีกประมาณ 20% ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

ส่วนกองทุน BCAP-GMA Plus เป็นกองทุนแบบ Dynamic มีนโยบายลงทุนในกองทุนต่างประเทศประมาณ 30 กองทุน ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในต่างประเทศทั่วโลกในสัดส่วนประมาณ 75% เช่น หุ้น REITs ทองคำ และมีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์มั่นคงประมาณ 25%