ปัจจุบัน...“สมุนไพรไทย” เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และคนไทย

อีกทั้งวันนี้ต่างประเทศก็เปิดให้การยอมรับมากขึ้น และมีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จากเมืองไทยเป็นอย่างมาก

Business On My Way สัปดาห์นี้ขอนำท่านผู้อ่านไปรู้จักกับอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรชิ้นโบแดงอย่าง “ลองกานอยด์” (LONGANOID) ที่พิสูจน์คุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยการคว้ารางวัลจากกรมการแพทย์แผนไทยฯถึง 2 ปีซ้อน รวมถึงคว้ารางวัลใหญ่จากทั่วโลกถึง 9 รางวัล อาทิ เหรียญทองนวัตกรรมโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ เหรียญเชิดชูเกียรติจากสถาบันนวัตกรรมแห่งชาติประเทศไต้หวัน เป็นต้น

ศาสตราจารย์ (เกียรติคุณ) ดร.อุษณีย์ วินิตเขตคำนวณ กรรมการบริหาร ที่ปรึกษางานวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท เดอพรีม่า เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “ลองกานอยด์” เล่าว่า ปัจจุบันการดำเนินชีวิตในรูปแบบ New Normal ได้ส่งผลต่อสุขภาพของคนเรา ทั้งด้านบวกและด้านลบไปพร้อมกัน กล่าวคือ มีการหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น ทั้งเลือกรับประทานอาหารที่สะอาด-มีความปลอดภัย

...

แต่อาจไม่ได้เน้นเรื่องควบคุมน้ำหนัก เช่น การบริโภคแป้งและไขมันมากเกินไป รวมทั้งพฤติกรรมโดยทั่วไป เช่น ยืน-นั่งนานๆ จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิด “โรคอ้วน” พร้อมทั้งโรคและอาการอื่นๆตามมา เช่น โรคไขข้ออักเสบ อาการปวดเข่า ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ทั้งคนทั่วไปและนักกีฬา หากหักโหมมากเกินไปอาจเสี่ยงต่อการเป็นกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และไขข้ออักเสบได้ง่าย

“ในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดว่าในปี 2564 ไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์แบบ ประชากรกว่า 20% ของประเทศจะมีอายุมากกว่า 60 ปี แต่การรองรับสังคมผู้สูงอายุของไทยยังไม่พร้อมเท่าที่ควร อาทิ เรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ ซึ่งหนึ่งในโรคที่ผู้สูงวัยเจ็บป่วยกันมากคือ โรคไขข้ออักเสบ ซึ่งเป็นกลุ่มของภาวะที่เกิดการทำลายข้อต่อของร่างกาย”

ทั้งนี้ อาการข้ออักเสบมีได้มากกว่าร้อยรูปแบบ โดยรูปแบบที่พบมากที่สุดคือข้อเสื่อม (Osteoarthritis) ซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บของข้อต่อ การติดเชื้อของข้อและอายุที่มากขึ้น ซึ่งต้องรีบรักษาหากปล่อยทิ้งไว้จนเรื้อรังจะทำให้ยากต่อการรักษา

ดร.อุษณีย์ เล่าต่อว่า การรักษาผู้ป่วยข้อเสื่อมมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทานยาลดการปวดอักเสบ การทำกายภาพบำบัด ซึ่งต้องปฏิบัติต่อเนื่องและใช้เวลานานพอสมควร การฉีดยาเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงเข้าข้อเข่า ต้องฉีดเป็นประจำและมีผลเสียตามมาภายหลัง หรือวิธีการผ่าตัด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งยังเสี่ยงติดเชื้อหลังการผ่าตัด รวมถึงมีข้อปฏิบัติดูแลภายหลังการผ่าตัดอีกมาก จนเป็นสาเหตุให้มีผู้ป่วยหลายคนเริ่มหันมาพึ่งวิธีธรรมชาติบำบัดจากแพทย์ทางเลือก เนื่องจากปลอดภัยและราคาประหยัดกว่า

โดยหนึ่งในทางเลือกการรักษาโดยเลี่ยงวิธีการผ่าตัดคือ การใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยอย่าง “ลองกานอยด์” ที่เป็นสารสกัดที่มาจากเมล็ดลำไยที่ดูแทบไม่มีประโยชน์ แต่ทว่าอุดมไปด้วยสารโพลีฟีนอลและฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันและยับยั้งการสลายของกระดูกอ่อน รวมทั้งสามารถช่วยให้เกิดน้ำหล่อเลี้ยงที่ไขข้อได้ดี

กระทั่งได้ทำการวิจัยจนได้สารสกัดจากเมล็ดลำไย ต่อยอดพัฒนาออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ลองกานอยด์ ทั้งนี้ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานจึงพัฒนามาในรูปของครีมนวด จากนั้นได้นำไปทดสอบกับกลุ่มอาสาสมัคร ที่มีปัญหาเป็นระยะเวลา 3-4 เดือน ซึ่งพบผลลัพธ์เป็นที่พึงพอใจ โดยอาการปวดข้อกระดูกลดลง โดยหลายคนเดินสะดวกขึ้น ที่สำคัญครีมดังกล่าวไม่มียากลุ่มสเตียรอยด์ จึงปลอดภัยต่อผู้ป่วยสูงอายุ กลุ่มผู้เป็นโรคความดันโลหิต หัวใจ และกระเพาะอาหาร

...

“ขณะนี้เรื่องของสมุนไพรไทยกำลังเป็นเรื่องที่อยู่ในกระแสสังคมมากๆ ไม่เพียงแต่ในหมู่คนไทย เพราะกระแสนิยมเริ่มแพร่หลายไปทั่วโลก เห็นได้จากแนวโน้มการส่งออกที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยสมุนไพรไทยมีหลากหลายชนิดและมีสรรพคุณมากมาย บรรพบุรุษของเรามักนำเอาพืชพันธุ์ต่างๆ ที่มีสรรพคุณมาใช้รักษาโรค จนถูกยกขึ้นมาให้มีคุณค่า มีความหมายทางยามากยิ่งขึ้น จากสิ่งนี้ลองกานอยด์จึงมีแนวคิดที่จะยกระดับภูมิปัญญาสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับของอารยประเทศทั่วโลก ด้วยการนำมาเข้าสู่กระบวนการวิจัยที่ได้มาตรฐานสากล และพัฒนาจนเกิดผลิตภัณฑ์นวัตกรรมธรรมชาติบำบัด ซึ่งเป็นที่ยอมรับของตลาดต่างประเทศ”

ท้ายที่สุดสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องสมุนไพรไทย ก็สามารถไปหาความรู้เพิ่มเติม และสรรหาผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ถูกต้องและปลอดภัยได้ในงาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 17” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 ก.ย.นี้ ณ ฮอลล์ 10-12 อิมแพค เมืองทองธานี จัดโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

โดยในงานจะได้พบกับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสมุนไพรฝีมือคนไทย ที่ผ่านงานวิจัยและมีรางวัลการันตีจากทั่วโลก ซึ่งทางลองกานอยด์ก็เตรียมขนทัพผลิตภัณฑ์ไปเข้าร่วมงานนี้อีกด้วย.