ในยุคสมัยที่คนรุ่นใหม่ เริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากความชอบ ความถนัด จนเกิดเป็นธุรกิจขึ้นมามากมายในทุกวันนี้

สิ่งหนึ่งที่สำคัญในการสร้างสรรค์ คือการสะท้อนความเป็นตัวตนให้มากที่สุด Business On My Way สัปดาห์นี้ ขอพาไปรู้จักกับ “เชฟเฟิร์ส” ธนภัทร สุยาว หนุ่มหล่อชาวเหนือจากจังหวัดน่าน ที่มีความฝันและความชอบ รักในการทำอาหาร โดยอาศัยความมานะพยายามเก็บเกี่ยวความรู้ พร้อมออกหาประสบการณ์

กระทั่งวันหนึ่ง ตัดสินใจที่จะพาตนเองไปพิสูจน์ความชอบในการรังสรรค์เมนูอาหาร กับการเข้าร่วมแข่งขันในรายการทำอาหารชื่อดังรายการหนึ่ง ซึ่งผลจากความพยายามนั้น ทำให้เขาได้คว้ารางวัลชนะเลิศมาครองได้สำเร็จ

เชฟเฟิร์ส เล่าว่า ตนเองเป็นคนรุ่นใหม่ที่ยึดมั่นและหลงใหลการทำอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือ โดยในการแข่งขันที่ชนะมานั้น ผมชอบนำวัตถุดิบมาประยุกต์ใช้ รังสรรค์เมนูอาหารแนวใหม่จนชนะใจกรรมการและคนดูทางบ้าน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจที่อยากนำเสนออาหารเหนือในรูปแบบฟิวชัน ให้คนเมืองได้ลิ้มลอง ผสมกับความฝันที่อยากเปิดร้านในรูปแบบ Modern Thai-Nan Cuisine ซึ่งก็ไม่รอช้าที่จะเดินตามฝัน เปิดร้าน MERCATO (เมอร์คาโต) ตั้งอยู่ย่านรามอินทรา กม.8 (ซอยคู้บอน)

...

MERCATO เป็นร้านคาเฟ่และดินเนอร์ ที่ตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่อยากสัมผัสบรรยากาศเหมือนทานอาหารในเมือง และอยากสัมผัสรสชาติอาหารเหนือที่เข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น ผ่านรูปแบบอาหารที่สะดุดตา การันตีด้วยฝีมือเชฟมากประสบการณ์ ที่จ่ายในราคาแสนคุ้มค่า เด็กนักเรียนจับต้องได้ วัยทำงานจ่ายสบาย”

ทั้งนี้คาเฟ่เปิดตัวด้วยอาหารชุด “ขันโตก” ที่มีไม้เด็ดอยู่ที่ “แกงฮังเลหมูม้วนและแกงฮังเลเนื้อ” รสชาติถึงเครื่องสมุนไพรทานแล้วจะลืมแกงฮังเลในรูปแบบเดิมๆที่เคยทานมา ซึ่งหากพูดถึงชุดขันโตกคงไม่มาเพียงเมนูเดียว แต่จัดเต็มมาถึง 5 เมนูใน 1 ชุด ประกอบด้วย ไก่พริกแกงอบควันฟาง เป็นน่องไก่หมักเนื้อนุ่มหอมพริกแกงและกลิ่นควันฟางทานคู่กับ ข้าวเหนียวงาขี้ม่อน

อีกทั้งยังมี ลาบคั่วหมูแพทตี้ เป็นลาบขั่วอัดแผ่นหั่นเป็นชิ้นทานง่าย รสชาติจัดจ้าน และปิดจบด้วย น้ำพริกน้ำผัก ปลาทูย่างใบตอง ที่ชื่อฟังไม่คุ้นหูแต่ลองทานดูจะติดใจ เป็นน้ำพริกผักกาดขั่วดองสูตรพิเศษ รสเผ็ดเปรี้ยว เสิร์ฟพร้อมกับผักต้มและปลาทูย่างห่อใบตอง ทั้งชุดเพียง 350 บาท (แกงฮังเลเนื้อ 450 บาท) ซึ่งหากใครมีโอกาสไปทานที่ร้าน ก็จะได้สัมผัสรูปแบบการเสิร์ฟจัดชุดอาหารที่ต้องร้องว้าวแน่นอน รวมถึงยังมีบริการจัดส่งถึงบ้านอีกด้วย

เชฟเฟิร์ส เล่าว่า ในส่วนเมนูอาหารยังมีเมนูเด็ดอีกหลายเมนู อาทิ กุ้งมะแขว่นสปาเกตตีพริกเกลือ ข้าวไข่ป่ามไก่พริกแกงอบควันฟาง ที่เรียกได้ว่าเตรียมเท่าไรก็ไม่พอขาย ตามด้วยเมนูของหวานอย่างชุด Afternoon Tea ที่มีให้เลือกทั้งชาชมพู และกาแฟดริปเมล็ดพันธุ์ส่งตรงจากน่าน โดยงานนี้ใครอยากจะดริปกาแฟโพสต์ถ่ายรูปเกร๋ๆ ก็ทำได้

รวมถึงยังมี ชาร์โคลชูครีมแอ่ปข้าวโพด ถ้าได้ชิมไส้ชูครีมผสมข้าวโพดต้องติดใจซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านแน่นอน หรือเลือกทานเป็น ชีสเค้กกล้วยตากไอศกรีมตะไคร้น้ำผึ้งป่า ก็บอกได้เลยหาทานที่ไหนไม่ได้ง่ายๆถ้าไม่ใช่ที่ร้าน MERCATO เพราะทุกอย่างในร้านทำขึ้นเอง รับรองความอร่อย

...

เชฟเฟิร์ส เล่าต่อว่า ในช่วงค่ำทางร้านจะเปิดให้บริการดินเนอร์ โดยเมนูอาหารจะแตกต่างไปจากเมนูคาเฟ่ โดยแต่ละเมนูจะสลับสับเปลี่ยนรูปแบบอาหาร และการนำเสนออยู่เสมอ เรียกว่าเปลี่ยนกันทุกไตรมาส สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ทุกครั้งที่กลับมาทาน อาทิ อยากพาคนพิเศษมาทานอาหารในวันพิเศษ ครบรอบวันแต่งงาน หรือวันเกิด ทางร้านก็พร้อมมีเซอร์ไพรส์เล็กๆน้อยๆ ช่วยสร้างความประทับใจให้วันสำคัญเป็นวันพิเศษมากยิ่งขึ้นได้

“ร้าน MERCATO ถือเป็นร้านคาเฟ่และดินเนอร์ทางเลือกใหม่ สำหรับคนที่มองหารูปอาหารและขนมหวานที่มีการนำเสนอ และรสชาติที่แตกต่าง ราคาเอื้อมถึงเพียง 120-190 บาท ทานเป็นชุดอยู่ที่ประมาณ 200-500 บาทเท่านั้น หรือมาทานดินเนอร์ ราคาเริ่มต้นแบบทานเป็นคอร์สอยู่ที่ประมาณ 800 บาทต่อคน (ขึ้นอยู่กับราคาคอร์สในแต่ละช่วง)”

...

ท้ายที่สุดเชฟเฟิร์ส เล่าว่าความแตกต่างที่ตนเองตั้งใจตั้งแต่แรกเริ่ม คือการนำเอาอาหารพื้นบ้าน ที่หลายคนคิดว่าทานยาก มาพัฒนาเป็นเมนูให้เข้าถึงง่ายขึ้น นำวัตถุดิบชาวบ้านมารังสรรค์ให้เป็นเมนูชิ้นเอกและแสดงความเป็นตัวตนออกมาในรูปแบบอาหารให้ลูกค้าได้ทาน ให้รู้สึกว่าถ้าอยากทานเมนูนี้ ก็ต้องมาที่นี่ ที่ร้าน “เชฟเฟิร์ส MERCATO” เท่านั้น

งานนี้ใครอยากแวะไปลิ้มลองรสชาติ ก็ไปกันได้ที่ร้าน MERCATO ตั้งอยู่ รามอินทรา กม.8 (คู้บอน) เปิดบริการ : อังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 12.00 - 22.00 น. หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ : @Mercato เฟซบุ๊ก : Mercato by Chef First และ IG : mercato.chef.first