กลุ่มผู้เลี้ยงหมูรายย่อยภาคใต้ เดือดรวมตัวสู้เบื้องหลังขบวนการหมูเถื่อน ชี้ ไม่มีความมั่นใจต่อการแก้ไขปัญหาของภาครัฐที่จะดำเนินการต่อเนื่อง จริงจัง ชี้มีขบวนการผสมผสานอยู่เบื้องหลัง หวังจะครอบงำตลาดของผู้เลี้ยงหมูรายย่อย 30% ที่เหลืออยู่

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2566 นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ นายโสภณ พรหมแก้ว ที่ปรึกษาสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภิวัช สินเจริญรุ่ง นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสำรอง รักชุม ตัวแทน สมัชชาผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคใต้ ได้เข้าร่วมหารือทิศทางการแก้ไขปัญหาวิกฤติการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อนจากต่างประเทศ ที่นำมาขายในราคาต่ำมาก ส่งผลกระทบกับ ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และยังต้องมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นถึง 40% มาซ้ำเติมอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้ลงความเห็นว่า ไม่มีความมั่นใจต่อการแก้ไขปัญหาได้อย่างต่อเนื่องจริงจัง และได้สรุปแนวทาง เรียกร้องให้มีการปราบปรามหมูเถื่อนอย่างจริงจัง ต่อเนื่องและนำตัวผู้ที่กระทำความผิดและผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดี 

...

นายโสภณ พรหมแก้ว ที่ปรึกษาสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาจับหมูเถื่อนได้เป็นหมื่นตู้ ตู้หนึ่งภาษี 6 แสนบาท มูลค่าไม่ใช่น้อยๆ หมูเถื่อนทำลายห่วงโซ่ของการเลี้ยงหมู ทั้งเกษตรกรผู้ปลูกพืชอาหารสัตว์ คนเลี้ยงหมู บริษัทผลิตยา สรุปได้ว่ากระบวนการนี้เป็นปลาใหญ่กินปลาเล็ก มีขบวนการที่ผสมผสาน ส่วนที่ไปเกี่ยวข้องคือนักการเมือง ข้าราชการใหญ่ๆ หลายกรมกอง และนายทุน หากสมาคมรายย่อยไม่ลุกมาต่อสู้ขบวนการนี้ก็สำเร็จ

“สำเร็จที่ว่าคือวันนี้ผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยของประเทศไทยเหลือเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อกลืนรายย่อยได้หมด นั่นคือขบวนการที่เขาจะครอบงำได้ทั้งระบบการผลิตสุกรในประเทศ ผู้บริโภคที่เป็นพี่น้องประชาชนจะถูกกำหนดราคาเนื้อหมู ให้ซื้อได้โดยไม่กี่บริษัท เพราะว่าตัวกีดกันพวกเขาคือเกษตรกรรายย่อยหายไปหมดแล้ว” ที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าเลี้ยงสุกรนครศรีธรรมราช กล่าว

นายโสภณ กล่าวอีกว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า ที่ท่านนายกรัฐมนตรี บอกว่าจะปราบปรามอย่างจริงจัง จับคนนำหมูเถื่อนเข้ามาโดยเฉพาะตัวใหญ่ที่อยู่ข้างหลังให้ได้ เมื่ออธิบดีดีเอสไอจะได้ตัว กลับมีการย้ายมันคืออะไร สังคมติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ขณะที่ นายสำรอง รักชุม ตัวแทนสมัชชาผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ กล่าวว่า นอกจากปัญหาหมูเถื่อนส่งผลกระทบอย่างหนัก ขณะนี้ คือเรื่องของต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และยังมีความล่าช้าของการเข้าขอกู้จากแหล่งเงินทุนเป็นไปอย่างยากลำบาก หากยังปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปเช่นนี้ต่อไปอีก 3 เดือนประเทศไทยจะไม่เหลือผู้เลี้ยงรายย่อย.