เกษตรกรไร่มันสำปะหลัง บ้านโคกล่าม ต.บรบือ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เดือดร้อนหนัก หลังฝนตกมาไม่หยุดจนน้ำท่วมขังในไร่มันสำปะหลัง สร้างความเสียหาย เพราะลานมันไม่รับซื้อ หรือรับซื้อก็กดราคาจนขาดทุน วอนรัฐช่วยหาคนรับซื้อมัน ราคา กก.ละ 1.5 บาทก็ได้ ดีกว่าเอาไปทิ้ง
เกษตรกรไร่มันสำปะหลัง บ้านโคกล่าม ต.บรบือ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม เดือดร้อนหนัก เร่งเก็บผลผลิตหลังจากฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องตลอด ทำให้เกษตรกรต่างเร่งขุดหัวมันสำปะหลังกันอย่างเร่งรีบ ภายหลังจากที่เมื่อช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำท่วมขังอยู่ในไร่มันสำปะหลัง สร้างความเสียหายให้กับมันสำปะหลังที่เกษตรกรปลูกไว้เป็นจำนวนมาก พอเก็บเกี่ยวไปขาย ทางด้านลานมันก็ยังไม่รับซื้อ ก็ต้องนำเอากลับมาทิ้งตากแห้งไว้ที่บ้านเพื่อสับให้เป็นอาหารสัตว์
...
หรือรับซื้อก็ให้ในราคา 1.40-1.60 บาทต่อ กก. ทำให้เกษตรกรขาดทุนกันเป็นจำนวนมาก เพราะว่าราคาที่ได้นี้ ขายมันได้มายังไม่พอค่าแรงที่จ้างแรงงานมาเก็บมันในไร่เลย ไม่ต้องพูดถึงต้นทุนในการปลูก วอนให้ทางรัฐบาลลงมาดูแลราคาและช่วยหาคนมารับซื้อมันให้กับเกษตรกรด้วย ตอนนี้เดือดร้อนกันอย่างหนักทั้งจังหวัดมหาสารคามแล้ว
นางไพรวรรณ์ ขานวงศ์ อายุ 53 ปี เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง เปิดเผยว่า ตนเองได้ลงทุนปลูกมันสำปะหลังเป็นจำนวน 40 ไร่ เนื่องจากที่ผ่านมามันสำปะหลังเป็นที่ต้องการของตลาด และราคาค่อนข้างดี เพราะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักนานหลายวัน ทำให้มีน้ำท่วมขังในแปลงปลูกมันสำปะหลัง จึงจำเป็นต้องเร่งเก็บหัวมันก่อนถึงเวลากำหนด ตนเองจึงเก็บกู้ไปขายประมาณ 14 ไร่ เอาไปขายตามลานมันก็ได้ราคาที่ไม่ดี อยู่ที่ 1.20-1.50 บาท ต่อ กก. ปีที่แล้วได้ 3.5 บาท ทำให้เดือดร้อนอย่างมาก เพราะไปจอดรถรอ พอจะได้ขายลานมันก็ไม่รับซื้อ ต้องนำกลับมาทิ้งไว้ที่บ้าน อย่างของตนเองมีมันสำปะหลังประมาณ 4-5 ตัน ก็ขายได้ราคา 8-9 พันบาท ที่กองไว้รอทำเป็นอาหารสัตว์ ขาดทุนตั้งแต่ราคาแรงจ้างเขามาเก็บกู้แล้ว จ้างไป 25,000 บาท ตอนนี้ขายได้ยังไม่ถึง 2 หมื่นบาทเลย ยังไม่รวมค่าพันธุ์ ค่าไถ ค่าปุ๋ย อยากให้รัฐบาลลงมาช่วยเหลือเกษตรที่ปลูกมันด้วยปีนี้
ด้าน นายจันทา สีคำแซง อายุ 47 ปี กล่าวว่า ชาวบ้านโคกล่ามของตนเองปลูกไว้ประมาณ 12 ไร่ เก็บกู้มาขายไปแล้ว 3 ไร่ เอาไปขายก็ขายได้ไม่มาก เหลือ 2 ตันที่ลานมันเขาไม่รับซื้อ ก็ต้องเอามากองไว้ที่หน้าไร่มันสำปะหลังของตนเอง เดือดร้อนมากปีนี้ ขาดทุน เป็นหนี้เป็นสิน อยากให้ทางราชการเข้ามาช่วยเหลือพวกชาวไร่มันด้วย
ส่วน นางสมหวัง วิชาคำ พร้อมสามี ชาวบ้านโคกล่าม กล่าวว่า ตนเองกับสามีมาเช่าที่ปลูกไร่มัน 13 ไร่ ราคา 13,000 บาท แต่ราคาขายมันปีนี้ได้ราคาละ 1.50 บาทต่อ กก. ต้องขาดทุนตั้งแต่ค่าเช่าแล้ว เพราะตอนนี้เก็บกู้ไปได้ 8 ไร่ ขายได้เงินมาแค่ 8-9 พันบาทเอง แถมขายยากมากด้วย ต้องตระเวนไปตามลานมันที่ต่างๆ ใกล้บ้านเขาก็ไม่รับซื้อ ไม่เคยเจอมาก่อนเลยกับราคามันที่ตกต่ำได้ขนาดนี้ เมื่อปีที่แล้วขายได้ 3 บาท ก็พอมีกำไร ปีนี้คงพูดว่าจะขาดทุนมากขนาดไหน อยากให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาช่วยดูแลเกษตรกรไร่มันด้วยในปีนี้ ตั้งแต่ฝนตกหนักมาเก็บกู้มาตลอด 2 สัปดาห์ ไม่เคยเห็นหน่วยงานไหนมาช่วยแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านเลย เกษตรกรเดือดร้อนกันมาก เขารับซื้อเท่าไรเราก็ยอมขาย ไม่ใช่ไม่รับซื้อเลยแบบนี้ เกษตรกรไร่มันคงตายกันในอีกไม่นานนี้.
...