ชาวสวนผักที่ ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง เผย เอลนีโญส่งผลให้ผักเสียหายเพราะเจอทั้งอากาศร้อนและฝนตก ขณะที่พอเข้าเทศกาลกิจเจก็เป็นโอกาสขายผักได้ราคาดีขึ้น เพราะตอนนี้ต้นทุนการปลูกสูง ฝากรัฐบาลคุมการนำเข้าผักจากจีน และแก้ปัญหาปุ๋ยและยาแพง

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ จ.ราชบุรี แหล่งเพาะปลูกผักและผลไม้ที่สำคัญของประเทศ เพื่อสำรวจตลาดผักก่อนเทศกาลกินเจ ซึ่งปีนี้มีขึ้นระหว่างวันที่ 14-23 ต.ค. 66 พบกับ นายลำจอง ดวงตา เกษตรกรชาว ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

นายลำจอง เปิดเผยว่า ครอบครัวมีรายได้หลักจากการปลูกพืชสวนครัวจำหน่าย นอกจากนี้ยังเปิดจุดรวบรวมสินค้าเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง และ อ.โพธาราม อาทิ แตงกวา ตะไคร้ ถั่วฝักยาว หัวปลี มะละกอ ใบมะกรูด คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้งนา ใบมะขามอ่อน และเห็ดสายพันธุ์ต่างๆ นำไปจำหน่ายยังตลาดศรีเมือง ตลาดกลางผักและผลไม้จังหวัดราชบุรี

เกษตรกรชาวสวนผัก อ.บ้านโป่ง กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาในแต่ละวันจะสามารถรวบรวมสินค้าได้เต็มคันรถกระบะ ทว่าปัจจุบันกลับเหลือสินค้าเกษตรเพียงแค่ครึ่งเดียว เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนจากสถานการณ์เอลนีโญ ส่งผลให้ผักเสียหาย ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่สำคัญ อย่างปุ๋ยและสารเคมีเกษตรต่างปรับราคาขึ้นกว่าเท่าตัว ตลอดจนราคาซื้อขายที่ผันผวนจากการนำเข้าสินค้าเกษตรจากต่างประเทศ เกษตรกรจึงล้มเลิกกิจการ และหันไปประกอบอาชีพอื่นแทน

...

นายลำจอง กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม เกษตรกรต่างคาดหวังว่าในปีนี้จะมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมเทศกาลกินเจ ละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์กันมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาพืชผักขยับตัวสูงขึ้น ช่วยทำให้เกษตรกรมีรายได้ชดเชยจากก่อนหน้านี้ที่แทบจะปลูกขายแบบไม่เห็นกำไร ดังนั้น อยากขอให้รัฐบาลช่วยควบคุม ทั้งปริมาณและราคาผักนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน เพื่อไม่ให้กระทบกับเกษตรกรของไทย แต่หากไม่สามารถควบคุมได้ เพราะเป็นเรื่องยาก ก็ขอให้ช่วยลดราคาปุ๋ยเคมี และสารกำจัดแมลงวัชพืช รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิต เพื่อให้เกษตรกรได้พอมีเงินเหลือไปใช้หนี้ และเลี้ยงปากท้องครอบครัวได้บ้าง.