เกษตรกรชี้ราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้น มาจากผลผลิตข้าวเปลือกในตลาดลดลง

ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าว อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ชี้ สาเหตุราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้มาจากปริมาณผลผลิตข้าวที่ลดน้อยลง โดยตอนนี้ใกล้สิ้นสุดช่วงเกี่ยวข้าวนาปรังแล้ว และนาปีจะเริ่มปลูก ส.ค.-ก.ย. ขณะที่ราคาข้าวถุงเกรดล่างๆ ขยับราคาบ้างแล้ว

นายสมปอง เกตุนิ่ม ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าว ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ในปี 2566 ข้าวเปลือกนาปรังปรับราคาขึ้นทั้งข้าวเมล็ดสั้น เมล็ดยาว โดยเมล็ดสั้นปรับตัวขึ้นมาเป็นราคา 9,900 บาท/ตัน โดยมีราคาซื้อขายเพิ่มขึ้นตันละ 400  บาท เมื่อไปเปรียบเทียบกับข้าวนาปรังในปีที่ 2565 มีราคาการซื้อขายที่ราคา 8,500 บาท/ตัน

"ส่วนสาเหตุสำคัญที่ราคาข้าวได้ปรับตัวขึ้นนั้นเนื่องจากปริมาณผลผลิตของข้าวที่ลดน้อยลง อย่างไรก็ตามในขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังในปี 2566 ซึ่งใกล้จะหมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวแล้ว ส่วนข้าวนาปีจะเริ่มการทำนาในช่วงเดือน  สิงหาคม-กันยายน" ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ข้าวฯ กล่าว

ด้านเกษตรกรผู้ทำนาในพื้นที่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้ ข้าวสารหลายยี่ห้อได้ปรับตัวขึ้นเป็นระยะๆ เช่น บางช่วงประมาณ 2 วัน โดยข้าวสารถุงบางยี่ห้อจำนวน 5 กก. ซื้อครั้งแรกราคาประมาณ 112 บาท/5 กก./ถุง พอเว้นระยะห่าง 2 วัน ราคาจะปรับขึ้นอีก 3 บาท/กก. รวมเป็น 115 บาท/5 กก./ถุง ซึ่งเป็นข้าวสารระดับเกรดไม่สูง ส่วนผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นระดับล่าง แต่การซื้อข้าวสารที่จะได้ราคาส่วนลด แต่จะต้องซื้อเป็นกระสอบใหญ่  ขนาด 40-50 กก. ซึ่งจะได้รับส่วนลดประมาณ 100 บาท.