การยางแห่งประเทศไทย อัปเดตมาตรการรับซื้อปลาหมอคางดำ ล่าสุด ครบจำนวนตามเป้าหมายโครงการที่ วงเงิน 50 ล้านบาทแล้ว โดยปลาทั้งหมดอยู่ในกระบวนการทำน้ำหมักชีวภาพ พร้อมพิจารณามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป
นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ กยท. ได้เข้าไปบูรณาการกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เพื่อเร่งขับเคลื่อนแก้ปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำที่ส่งผลต่อระบบนิเวศในแหล่งน้ำ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ โดย กยท.ใช้งบประมาณ มาตรา 13 พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 สำหรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ ในวงเงิน 50 ล้านบาท ภายใต้โครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง โดยมีวงเงินในการรับซื้อและเป็นค่าบริหารจัดการเพื่อรวบรวมปลาหมอคางดำจากเกษตรกร ชาวประมง และประชาชนทั่วไป รวมเป็นเงิน 12 ล้านบาท (ราคารับซื้อ 15 บาท/กิโลกรัม)
...
จากการดำเนินการรับซื้อตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นมา โดยปัจจุบัน กยท.ได้ดำเนินการรับซื้อปลาหมอคางดำแล้วทั้งหมด 600,000 กิโลกรัม ตามเป้าหมายโครงการฯ ที่ตั้งไว้ ซึ่ง กยท.ได้ส่งปลาหมอคางดำสู่กระบวนการแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพ โดยกรมพัฒนาที่ดิน จำนวน 178,039 กิโลกรัม และสถาบันเกษตรกรรับไปดำเนินการผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพ จำนวน 421,961 กิโลกรัม ทั้งนี้ หลังผลิตเป็นผลิตภัณฑ์น้ำหมักชีวภาพเสร็จเรียบร้อย กยท.จะนำน้ำหมักชีวภาพไปมอบให้กับเกษตรกรชาวสวนยางพารานำไปใช้ ในสวนยางต่อไป
นายสุขทัศน์ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ กยท.อยู่ระหว่างการทบทวนและพิจารณางบประมาณ ตลอดจนแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเร่งกำหนดมาตรการในการช่วยเหลือและแก้ปัญหาปลาหมอคางดำให้สำเร็จต่อไป เบื้องต้นได้รับข้อมูลจากกรมประมงว่า มีบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์เข้ามาดำเนินการรับซื้อปลาหมอคางดำในบางพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดแล้ว.