สวพส.ส่งเสริมการเกษตรแบบอินทรีย์บนพื้นที่สูง ลดการเผาก่อปัญหา PM 2.5 อีกทั้งยังลดพื้นที่ ลดการรุกป่า โดยปลูกพืชมูลค่าสูง อายุสั้น ใช้พื้นที่น้อยแต่ทำรายได้มาก มีตลาดรองรับผลผลิต ช่วยเหลือเกษตรกรจำหน่ายผลผลิตที่ปลูก
นางสาวเพชรดา อยู่สุข รองผู้อำนวยการสถาบัน ด้านบริหารจัดการ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) กล่าวว่า จากต้นแบบของโครงการหลวง ที่มุ่งให้เกษตรกรบนพื้นที่ หันมาทำการเกษตรแบบอินทรีย์เพิ่มขึ้น ซึ่งการเกษตรแบบลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เพิ่มมากขึ้น ลดการใช้พื้นที่ทำการเกษตรแบบเดิม ปลูกมากๆ แต่มีรายได้น้อย มาใช้พื้นที่น้อยมีรายได้มาก ลดการขยายพื้นที่บุกรุกป่า ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการเผาวัชพืชทางการเกษตรจนกลายเป็นปัญหามลพิษทางอากาศ เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
...
รองผู้อำนวยการสถาบัน สวพส. กล่าวต่อว่า ขณะนี้ก็เริ่มต้นส่งเสริมมีเกษตรกรต้นแบบ ที่เชียงใหม่ ให้หันมาทำเกษตรอินทรีย์จนได้ผล นอกจากส่งเสริมการปลูก ยังมีการช่วยหาผลผลิตที่เหมาะสมต่อพื้นที่ อีกทั้งยังหาตลาดให้กับเกษตรกร เพื่อให้สามารถจำหน่ายถึงผู้บริโภค มีตลาดรองรับให้กับเกษตรกร มีการนำพืชที่เหมาะสมแต่ละพื้นที่เข้าไปทำการเกษตรแบบอินทรีย์
นางสาวเพชรดา กล่าวด้วยว่า ในปัจจุบันการเกษตรโดยไม่เผาเริ่มได้รับความสนใจจากเกษตรกร เพราะการทำ 1 โรงเรือน สามารถหมุนเวียนพืชระยะสั้นได้ 9-10 พร็อพ โดย 1 พร็อพ สามารถทำรายได้ถึงกว่า 5 พันบาท เป็นการเกษตรวิถีใหม่ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ต้องเผา ทำน้อยได้มาก ต่อ 1 ครัวเรือนสามารถใช้เลี้ยงครอบครัวได้อย่างพอเพียง เป็นอีกหนึ่งการแก้ปัญหาระดับชาติที่แต่ก่อนทำมากได้น้อย แต่ตอนนี้ทำน้อยได้มาก ตอนนี้ทาง สวพส.ต้องเดินหน้าขยายงานให้ครอบคลุมบนพื้นที่สูง ซึ่งมีหมู่บ้านเป้าหมายถึง 4 พันกว่าหมู่บ้าน ขณะนี้สามารถดำเนินการไปได้ 2 พันกว่าหมู่บ้าน ยังครอบคลุมไม่ถึงครึ่ง ต้องใช้อีกหน่วยงานและชุมชนร่วมขับเคลื่อนไปด้วยกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ไปยังเป้าหมายที่วางไว้.