ก.เกษตรฯ - บ.มิชลิน ร่วมหารือวางแนวทางขับเคลื่อน กำหนดแนวทางบริหารจัดการระบบยางพาราไทย เพื่อรองรับกฎระเบียบ EUDR มุ่งยกระดับยางไทยในการส่งออกไปสู่ตลาดโลก
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมหารือกับคณะผู้แทนจาก บริษัท มิชลิน กรุ๊ป กำหนดแนวทางบริหารจัดการระบบยางพาราไทย เพื่อรองรับกฎระเบียบ EU Deforestation Regulation (EUDR) และร่วมหารือแลกเปลี่ยน พร้อมกำหนดแนวความร่วมมือฯ โดยมี นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย และผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
...
ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า บริษัท มิชลิน ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยางล้อหลักของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ผลิตยางล้อและยางพาราแห่งยุโรป (ETRMA) ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่มีการใช้วัตถุดิบยางพาราของประเทศไทย ได้เข้าพบผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานด้าน กฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า (EUDR) ในสินค้าประเภทยางพารา ซึ่งในขณะนี้ อยู่ระหว่างการนำเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมสินค้าโภคภัณฑ์ทั้ง 7 ชนิด โดยจะเร่งขับเคลื่อนการบริหารจัดการที่ดิน เพื่อสามารถแสดงแหล่งที่มาของผลผลิตในการส่งออกสินค้าไปสหภาพยุโรปได้ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับสินค้าในกลุ่มดังกล่าวได้ด้วย
สำหรับการหารือร่วมกันในครั้งนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการสินค้ายางพาราของไทยให้มีคุณภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการค้าการลงทุนของอุตสาหกรรมยาง และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับยางพาราของไทย สำหรับกระบวนการด้านเอกสารสิทธิที่ดินทำกินของเกษตรกร กระทรวงเกษตรฯ ได้มีนโยบายขับเคลื่อนการใช้ที่ดินเพื่อทำการเกษตรให้มีความถูกต้อง โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามกฎระเบียบ EUDR
...
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนและร่วมมือกับ บริษัท มิชลิน กรุ๊ป ในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยาง เพื่อความยั่งยืนของยางธรรมชาติ เช่น ระบบกรีด แก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต ระบบการจัดการดินและปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิตและสร้างระบบนิเวศให้มีความยั่งยืน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยและพัฒนา รวมถึงการนำแพลตฟอร์มดิจิทัลรวบรวมข้อมูลห่วงโซ่การผลิตด้านต้นน้ำ สำหรับการปรับปรุงในแง่ของการปฏิบัติด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำมาประเมินความเสี่ยงในการรองรับกฎระเบียบ EUDR
...
รวมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายการยางแห่งประเทศไทยให้เร่งดำเนินการขยายตลาดเครือข่ายยาง เพื่อให้เข้าถึงจุดรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรรายย่อยได้ง่ายและรวดเร็ว เป็นผลดีต่อห่วงโซ่อุปทานยางพารา โดยมีเป้าหมายให้เกษตรกรชาวสวนยางไทยมีรายได้ และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ประเทศผู้ผลิตและผู้ใช้ยางมีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างมั่นคง และยังช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจจากยางพาราได้อย่างยั่งยืน.