กรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วย สสปน. และ จ.อุดรธานี เดินหน้าเตรียมจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.อุดรธานี 2569 ล่าสุด หารือกับผู้บริหารและสมาคมด้านพืชสวนระหว่างประเทศรับคำแนะนำการจัดงานและปรับแผนแม่บท
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.อุดรธานี พ.ศ. 2569 ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตร เข้าร่วมพิธีปิดงานมหกรรมพืชสวนโลกนครเฉิงตู Cheungdu Expo 2024 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. และพันโทวรายุส์ ตรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี เข้าร่วมงานด้วย พร้อมกับได้ประชุมหารือร่วมกับ Mr.Leonardo Capitanio ประธานสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ Mr. Tim Briercliffe เลขาธิการสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ และคณะกรรมการสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) ได้แนะนำแนวทางการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.อุดรธานี พ.ศ. 2569 ภายใต้ข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลาการ เตรียมจัดงานที่มีอย่างจำกัดเพียง 1 ปี 4 เดือน โดยเสนอให้มีการปรับแบบผังแม่บทให้ลดความสลับซับซ้อนของโครงสร้างและอาคาร แต่ยังคงสามารถสื่อสารความเป็นไทยและสอดคล้องกับธีมของงาน โดยขอให้กรมวิชาการเกษตรเร่งหารือแนวทางการปรับปรุงผังแม่บทตามข้อแนะนำดังกล่าว รวมถึงแนะนำ Mr. John Boon ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบผังแม่บทมหกรรมพืชสวนโลกของ AIPH เพื่อช่วยให้คำแนะนำแนวทางปรับปรุงผังแม่บทใหม่ โดย AIPH เน้นย้ำโครงการระดับ B ปกติจะเป็นอาคารชั่วคราว (Temporary Building) เป็นส่วนใหญ่ รวมทั้งเสนอให้ปรับลดขนาดของพื้นที่จัดงาน เนื่องจากการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.อุดรธานี เป็นระดับ B ตามข้อกำหนดของ AIPH กำหนดพื้นที่อย่างน้อยประมาณ 150 ไร่ หากประเทศไทยจะลดขนาดพื้นที่จัดงานลงจากเดิมที่กำหนดไว้ประมาณ 1,030 ไร่ ให้เหลือครึ่งหนึ่ง หรือ 400-500 ไร่ ก็สอดคล้องกับคำแนะนำของ AIPH โดยประธาน AIPH เน้นย้ำว่าแนวทางการจัดงานของ AIPH คือ "Less is the best"
...
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต่อว่า ได้หารือร่วมกับผู้อำนวยการ สสปน.และผู้แทน จ.อุดรธานี เสนอขอขยายระยะเวลาการส่งมอบพื้นที่ให้แก่ประเทศสมาชิก AIPH เพื่อเข้ามาดำเนินการจัดสวนและก่อสร้างอาคารนานาชาติก่อนเปิดงาน 3 เดือน จากเดิมต้องส่งมอบพื้นที่ให้ AIPH ก่อนเปิดงาน 6 เดือน คือในวันที่ 1 ส.ค.2569 เป็นวันที่ 1 พ.ค.2569 เพื่อให้มีระยะเวลาในการก่อสร้างและปรับปรุงภูมิทัศน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคณะกรรมการ AIPH ได้เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งประเทศไทยจะเน้นความสำคัญของการจัดแสดงทางด้านพืชสวน เนื่องจากเป็นประเทศที่มีความหลากหลายของพืช/ต้นไม้/ไม้ดอกไม้ประดับ โดยขอให้เน้นการจัดสวนอย่างมีคุณภาพมากกว่าปริมาณ
อย่างไรก็ตาม กรมวิชาการเกษตร สสปน. และผู้แทน จ.อุดรธานี จะนำข้อมูลดังกล่าว รายงานต่อคณะกรรมการบริหารการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ และคณะกรรมการอำนวยการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ ทั้งนี้ จ.อุดรธานี ต้องเร่งดำเนินการส่งมอบกรรมสิทธิ์ผังแม่บทให้กรมวิชาการเกษตรโดยด่วนที่สุด และเร่งปรับสภาพพื้นที่ให้แล้วเสร็จตามกำหนดภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เพื่อที่กรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างพร้อมกับเชิญชวนผู้รับจ้างจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ ครั้งต่อไป
"การปรับปรุงตามคำแนะนำดังกล่าวจะสร้างความมั่นใจให้แก่คณะกรรมการ AIPH ซึ่งมีกำหนดการลงตรวจติดตามพื้นที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกทั้งในส่วนของ จ.อุดรธานีและนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 24-28 พ.ย.2567 และในการประชุม AIPH Spring Meeting ณ จ.เชียงราย ช่วงเดือน ก.พ.2568 พร้อมกันนี้ จะเตรียมเชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ ผู้ประกอบการที่เคยได้รับการเชิญชวน และเชิญชวนผู้ประกอบการรายใหม่มาร่วมรับทราบแนวทางในการปรับผังแม่บทที่ยังคงเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดงานและข้อกำหนดของ AIPH ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ต่อไป เพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก จ.อุดรธานี และเพื่อให้เปิดงานได้ตามกำหนดในวันที่ 1 พ.ย.2569" อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว