กูรูชื่อดัง แจงเหตุผล ใช้รถสองแถว-สามล้อ ดูแล "นักวอลเลย์บอลชายหาด" ชิงแชมป์โลก

แฟนกีฬาวอลเลย์บอลหายสงสัย หลังกูรูชื่อดังออกมาไขข้อสงสัย ทำไมศึกลูกยางชายหาด ยู-21 ชิงแชมป์โลก ต้องใช้รถสองแถว-สามล้อ รับส่งนักกีฬา

วันที่ 8 พ.ย. 66 จากกรณีที่แฟนลูกยางวิพากษ์วิจารณ์การแข่งขันวอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ที่จังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าภาพจัดรถรับส่งนักกีฬาใช้รถสองแถวกับสามล้อ พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า หากไม่พร้อมก็ไม่ควรจัดรายการระดับโลก

ล่าสุด "ปรีชาชาญ วิริยานุภาพพงศ์" ปัจจุบันทำงานสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย หรือ เอวีซี ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า อันดับแรกก่อนเลย คือต้องเข้าใจนะครับ ว่านี่เป็นวอลเลย์บอลชายหาด ซึ่งแน่นอนทั้งร้อน เหงื่อไหลไคลย้อย คราบเหงื่อ คราบทรายติดตามร่างกายและตามเสื้อผ้า เพราะนักกีฬาไม่ได้มีทุกคนที่หลังจากแข่งจบก็จะอาบน้ำแต่งตัวสะอาดหมดจด บางคนเขาก็รีบกลับไปโรงแรมทันทีเลย เพราะงั้นหากจัดรถตู้รถบัสเหมือนอย่างการแข่งขันวอลเลย์บอลในร่ม มันไม่เอื้อแน่นอนครับ เพราะมีทั้งทราย ทั้งเหงื่อ เหนียวตัว อาจจะไม่สะดวกในเรื่องของการควบคุมความสะอาด และหลังการแข่งขัน นักกีฬาก็เหนื่อยมามากพอแล้ว ก็อาจจะต้องการลมและความเป็นธรรมชาติมากกว่า ด้วยการโดยสารรถที่ตอบโจทย์แบบนั้น

และอย่างที่สอง การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ไม่ได้แข่งจบพร้อมกันในสี่สนามแข่งขัน เพราะงั้นสนามไหนแข่งจบก่อน นักกีฬาเขาก็จะรีบกลับ เพราะงั้นมันก็สะดวก ที่ขึ้นรถปุ๊บ อาจจะมีนักกีฬาไม่ถึงสิบคน รถก็พร้อมออกทันทีตามคิวเวลาที่เขาจัดไว้ ซึ่งต้องไม่ลืมว่าการแข่งขันรายการนี้มีนักกีฬามากถึง 46 ประเทศ และในแต่ละประเทศเขาก็อาจจะมีนักกีฬาและโค้ชมาด้วย ส่วนครอบครัวนักกีฬาที่ติดตามมาเชียร์ เขามักจะเดินเอา เพราะจากโรงแรมไปสนามมันก็ไม่ไกลครับ หากแดดไม่แรงจัดในช่วงกลางวัน ก็พอเดินได้ ระยะทางน่าจะกิโลนึง (หรืออาจจะประมาณ 7-800 เมตร) อย่างผมก็เดินไปสนามแข่งขันทุกวันทั้งไปและกลับ

ผมยังจำได้ดี สมัยที่ไปทำข่าววอลเลย์บอลชายหาดที่ภูเก็ต จัดรถตู้ให้ ขาไปสนามก็โอเคหน่อย เพราะเพิ่งอาบน้ำ สบายตัว แต่ขากลับ เหนียวตัว เหงื่อก็ไหล เสื้อยืดที่ใส่ก็เปื้อนคราบทราย ตามแขนขาก็มีทราย เข้าไปในรถตู้ที่เขาจัด มันไม่สะดวกเลย ทรายก็หล่นบนพื้นรถตู้เต็มไปหมด นั่นขนาดคนขับเอากระดาษมารองพื้น แต่ก็ไม่วาย มีทรายหล่นเต็มไปหมด จบการแข่งขัน น่าจะมีเครื่องดูดฝุ่นดูดทรายในรถ

ผมมองว่ารถแบบสองแถวเหมาะมากกว่าในการให้นักกีฬาที่แข่งขันจบแล้วนั่งกลับโรงแรม ซึ่งอย่างที่ยืนยันว่ามันสะดวกดี ผู้โดยสารรับลมเย็นสบาย ทำความสะอาดทรายและคราบเหงื่อบนพื้นได้ง่ายกว่า อีกอย่างคือด้วยสภาพรถ นักกีฬาจะสังเกตง่าย เพราะที่บริเวณสนามแข่งขัน รถเจ้าหน้าที่ รถนักท่องเที่ยวที่ไปจอดริมบึงพลาญชัยมีเยอะมากทั้งรถตู้และรถยนต์ จึงทำให้สังเกตได้ยาก แต่หากเป็นรถแบบสองแถว จอดรออยู่ สังเกตได้ง่าย นั่งรถตดไม่ทันหายเหม็นเลยด้วยซ้ำก็ถึงโรงแรมแล้ว ต้องไม่ลืมนะครับว่าการแข่งขันมันมีต่อเนื่องตลอดวัน เริ่มตั้งแต่แปดโมงเช้า และแข่งขันไปเรื่อยๆ จนจบตอนเย็น หากหารถตู้มารองรับ อาจจะต้องหารถมาเตรียมไว้หลายสิบคัน ซึ่งมันไม่สะดวกในหลายๆ เรื่อง ทั้งในด้านความจำเป็น สถานที่รับส่ง สถานที่จอดในบริเวณสนาม ตารางเดินรถต่างๆ ซึ่งหากเป็นวอลเลย์บอลในร่ม แน่นอนครับว่าทำได้ เพราะแต่ละทีมมี 20 กว่าคน ต้องใช้รถแบบรถทัวร์ แต่นี่เป็นวอลเลย์ชายหาด นักกีฬาอาจจะใส่ขาสั้น เสื้อกล้าม รองเท้าแตะ ซึ่งจากสภาพ ความสะดวกและความจำเป็นแล้ว รถแบบสองแถวก็น่าจะโอเค ไม่ได้น่าเกลียดอะไร.