“เหรียญทอง” น้องเทนนิส ของขวัญ “ล้ำค่า” จากปารีส

ต้นฉบับ “กีฬาเฮฮา” สัปดาห์นี้ จ่าแฉ่ง ต้องส่งล่วงหน้าไปจากกำหนดที่ควรส่งถึง 2 วัน จึงอาจสรุปหรือพูดถึงเหตุการณ์ และผลงานนักกีฬาไทยในโอลิมปิกปารีสได้อีกไม่ครบถ้วน และทันสมัย

แต่ก็เอาเถอะเพียงแค่นี้ (บันทึก ณ เวลา 1 ทุ่มเศษ วันที่ 8 สิงหาคม 2567) ก็ถือว่าพอเพียง และสมใจแล้วครับสำหรับ “ผลงาน” ที่ทัพนักกีฬาไทยมอบให้แก่พวกเราชาวไทย

มองไปที่ตารางสรุปเหรียญบนสุดพบว่าสหรัฐฯ ยังนำเหรียญทองจีนอยู่ 2 เหรียญ 27-25 ถือว่าสูสีสุดขีด...ผลที่สุดจะจบลงอย่างไรคงต้องติดตามไปจนกว่าจะปิดจ๊อบจบโอลิมปิกครั้งนี้

เรามามองกันที่กลางๆตารางเหรียญกันดีกว่า ตีกรอบเฉพาะกลุ่มพวกเราชาว “อาเซียน” เท่านั้น ปรากฏว่า ฟิลิปปินส์ เป็นที่ 24 ของตารางทั้งหมดและเป็นที่ 1 ของอาเซียนได้ไป 2 ทองกับ 2 ทองแดง

ในขณะที่ ไทยแลนด์ เราอยู่อันดับ 31 ของตารางและเป็นที่ 2 ของอาเซียนได้มา 1 ทอง 2 เงิน และ 2 ทองแดง...แพ้เขาตรงเขาได้ 2 ทอง เราได้แค่ทองเดียวนี่แหละครับ

ส่วนที่ 3 ของ อาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย ครับได้มา 2 ทองแดง เป็นที่ 70 ร่วมของตารางผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด

จากนั้นก็เป็นที่ 4 อาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย ซึ่งยังได้แค่ 1 ทองแดง เป็นอันดับที่ 73 ร่วมของประเทศทั้งหมด

ขณะที่ บรูไน, กัมพูชา, ลาว, เมียนมา, และ เวียดนาม ยังไม่ได้เหรียญอะไรเลย เขาจึงจัดให้เป็นที่ 81 รวมกันทั้งหมด เรียงตามลำดับตัวอักษรประมาณร้อยกว่าประเทศที่ยังไม่ได้เหรียญอะไรติดมือ

ดังนั้นแม้ว่านาทีนี้เราจะยังเป็นที่ 2 ได้เหรียญทองน้อยกว่าฟิลิปปินส์ 1 เหรียญ ในฐานะกองเชียร์คนหนึ่ง “จ่าแฉ่ง” ก็รู้สึกพอใจ

ฟิลิปปินส์เขาได้ 2 ทอง จาก คาร์ลอส ยูโล นักยิมนาสติกชาย จากประเภทฟลอร์เอกเซอร์ไซส์กับม้ากระโดดชาย

ส่วนของเรานั้นก็ต้องขอบคุณน้อง “เทนนิส” หรือน้อง พาณิภัค วงค์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง ที่สามารถคว้าเหรียญทองมาได้อย่างสุดมัน

กว่าจะเอาชนะสาวจีนคู่ปรับได้ต้องออกแรงเตะสุดฤทธิ์ชนะไปได้ 2-1 ยก โดยเฉพาะยกที่ 3 ที่ต้องลุ้นกันอย่างบีบหัวใจ

เพราะน้องเทนนิสเตะหัวคู่ต่อสู้ได้ถึง 2 ครั้ง แต่คะแนนไม่ขึ้นซะงั้นจึงต้องส่งสัญญาณให้โค้ชเชชาเลนจ์ถึง 2 ครั้ง และได้แต้มมา 6 แต้ม ซึ่งเป็นชัยชนะในที่สุด

ภาพที่น้องก้มกราบโค้ชเชเห็นแล้วชื่นใจจริงๆ และภาพที่เธอขึ้นรับเหรียญทองพร้อมกับการบรรเลงเพลงชาติไทยขณะชักธงขึ้นสู่เสาเห็นแล้วคนแก่อย่างจ่าแฉ่งอดน้ำตารื้นเสียมิได้

ขอปรบมือให้แก่หลานสาวคนเก่งอีกครั้งสำหรับ 3 เหรียญโอลิมปิกจากทองแดงมาสู่อีก 2 ทอง ใน 3 โอลิมปิก ริโอ 2016, โตเกียว 2020 และปารีส 2024 ในช่วง 8 ปีเศษๆ

นอกจากน้องเทนนิสแล้วเรายังได้ 1 เหรียญเงินจาก “วิว”กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดชายเดี่ยว ผู้สร้างตำนานหยิบเหรียญของโอลิมปิกให้แก่วงการแบดมินตันไทย

1 เหรียญเงินจาก ธีรพงศ์ ศิลาชัย หรือฟ่าง นักยกน้ำหนักรุ่น 61 กก. 1 เหรียญทองแดง จาก “ออย” สุรจนา คำเป้า นักยกน้ำหนักหญิง รุ่น 49 กิโลกรัม และอีก 1 ทองแดงจาก “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักมวยหญิงรุ่นเวลเตอร์เวท

จะมีใครคว้ามาได้อีกหรือไม่เพราะการแข่งขันยังไม่จบ...หวังว่าเรายังจะมีโอกาส ได้ “เหรียญ” เพิ่มอีกนะครับน้องๆ.

“จ่าแฉ่ง”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กีฬาเฮฮากับจ่าแฉ่ง” เพิ่มเติม