หน้าแรกแกลเลอรี่

เพื่ออนาคต

เบี้ยหงาย

9 ส.ค. 2567 04:40 น.

เป็นวันชื่นคืนสุขของคอกีฬาแน่นอน

กับชัยชนะของนักกีฬาไทยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 เมื่อวันก่อนช่วง 7 ส.ค. ต่อเนื่องข้ามคืนเข้าไปสู่วันที่ 8 ส.ค. ตามเวลาของเรา

เน้นว่าเป็นความสุขในโหมดกีฬา ส่วนมิติอื่นๆอย่างการบ้านการเมือง พักไว้หรือข้ามไปก่อน

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ด้วย ไทยแลนด์ได้เหรียญทองแล้วจากฮีโร่คนเดิม และเป็นความหวังสูงสุดของทัพนักกีฬาไทย “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ในวัย 27 ปี และไม่เพียงแต่ได้เหรียญทอง น้องเทนนิสของเรายังสร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ให้กับกีฬาของชาติ ในฐานะนักกีฬาไทยคนเดียวที่ได้เหรียญโอลิมปิก 3 ครั้งซ้อน นับแต่ที่ริโอ เด จาเนโร 2016 เป็นต้นมา และเป็นการเบิ้ลเหรียญทองเสียด้วย

ดูแล้วคงยากที่จะมีใครทำได้เช่นนี้ไปอีกยาวนาน เว้นแต่ตัวพาณิภัคเองนั่นแหละ หากจะเปลี่ยนใจไม่เลิกแล้ว กลับมาไล่ล่าทำลายสถิติตัวเองต่อไป...เท่านั้น

ทั้งยังเป็นการได้เหรียญทองโอลิมปิกที่สองในวันเกิดครบ 27 ปีเต็ม ในวันที่ 8 ส.ค.2567 เสียด้วย ไม่มีอะไรลงตัวเท่านี้แล้ว ต้องมีความสุขสุดๆแน่นอน

ก่อนหน้า “เทนนิส” จะคว้าเหรียญทองและรวมถึงระหว่างกำลังแข่งอยู่นั้น ทีมยกน้ำหนักไทย ซึ่งจอมพลัง 2 คนแรกที่ขึ้นเวที ก็เติมเต็มความสุขให้คนไทยได้อย่างเปี่ยมล้น ไล่จาก 1 เหรียญเงินจาก “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย รุ่น 61 กิโลกรัมชาย และตอนดึก 1 เหรียญทองแดง จาก “ออย” สุรจนา คำเบ้า รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง

นั่นทำให้ปิดวันที่ฝรั่งเศส ไทยแลนด์คว้ามาแล้ว 1 ทอง 2 เงิน และ 2 ทองแดง รวม 5 เหรียญ และยังมีลุ้นกันต่ออีกในวันที่เหลือ

ต้องบอกว่ามาช้านิดหน่อย แต่มาแล้ว!!!

นอกเหนือจากเรื่องเหรียญหรือชัยชนะในครั้งนี้ ยังมีประเด็นบวกที่สำคัญซึ่งแทรกอยู่ในผลงานของนักกีฬาไทย ที่จำเป็นจะต้องได้รับการสานต่อ สนับสนุน ส่งเสริม เพื่อพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในอนาคต

ก็ด้วย “อายุ” ของนักกีฬาหลายคนยังถือว่าน้อยมาก ยังจะสร้างชื่อให้ตัวเองและประเทศชาติได้อีกยาวไกลจากน้องเอสที วารีรยา สุขเกษม วัย 12 ปี ในสเกตบอร์ด, “บิว” ภูริพล บุญสอน นักวิ่งแห่งอนาคต วัย 18 ปี หรือจะเป็น “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (23 ปี) รวมถึงจอมพลัง ฟ่าง ธีรพงศ์ ศิลาชัย วัย 20 ปี และยังมีคนอื่นๆอีก

นับเป็นสัญญาณที่ดีมาก และสามารถส่งต่อไปถึงอนาคตที่ดีกว่าด้วย หากเราใช้พื้นฐานอันสำคัญนี้ บ่มเพาะ และเพิ่มเติมประสิทธิภาพให้กับนักกีฬาไทยเหล่านี้

เชื่อว่าจบการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก จะต้องมีการประเมินอันเป็นงานรูทีน แต่ครั้งนี้คงต้องจริงจัง ใส่ใจ และลงลึกอย่างมียุทธศาสตร์ ต้องใช้เป็นอาวุธเพื่ออนาคตที่แท้จริง ต้องวางแผน โดยละเอียด แบบเจาะจงเป้าหมาย โดยการกีฬาแห่งประเทศไทยจะต้องทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาต้นสังกัดอย่างใกล้ชิด เมื่อมีแผนงาน แผนเงิน ระหว่างทางก็ต้องประเมินต่อเนื่องเป็นระยะ

ยุคนี้รัฐบาลสนับสนุนกีฬาอยู่แล้ว น่าจะได้รับการตอบสนองด้วยดี

ทำกันจริงๆสักที นี่เป็นจังหวะเวลาที่ดี และมีทรัพยากรที่เหมาะสม

ความสุขของคนไทยกับกีฬาไทยในอนาคต จะมากขึ้นไปเรื่อยๆในทุกเกม...

“เบี้ยหงาย”

คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม