หน้าแรกแกลเลอรี่

มาแล้ว "นักบิดชาวไทย" เคลื่อนไหวสุดเดือด หลังโดน "รุ่นน้อง" ตั้งใจเบียดชนล้มก่อนเข้าเส้นชัย

ไทยรัฐออนไลน์

22 ก.ค. 2567 12:50 น.

นักบิดไทย เคลื่อนไหวแล้ว หลังโดนชนล้มในการแข่งขันรายการดังก่อนเข้าเส้นชัย

วันที่ 22 กรกฎาคม 2567 หลังจากที่ สมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย แถลงการณ์ กรณีอุบัติเหตุในการแข่งขันรถจักรยานยนต์ ณ สนามแข่งรถไทยแลนด์ เซอร์กิต ระบุว่า

ตามที่ได้เกิดเหตุรถหมายเลข 17 และหมายเลข 29 ในรายการ FMSCT Thailand Road Racing Championship 2024 รุ่น Production 150 Professional สนามที่ 5 เก็บคะแนน ชิงแชมป์ประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 67 นั้น
นายสนามได้ตัดสินว่านักแข่งหมายเลข 17 ขับขี่รถอันตราย ปรับผลการแข่งขันลง 3 ตำแหน่ง ปิดประกาศผลการแข่งขันเวลา 16.45 น.
ต่อมาทีมแข่ง EEST NJT Racing Team ได้ประกาศลงโทษหมายเลข 17 ในสังกัดไม่ให้ลงแข่งขัน สนามที่ 6 วันที่ 21 ก.ค. 67 โดยให้เหตุผลสอดคล้องกับคําตัดสินของนายสนาม

เหตุการณ์ดังกล่าว สมาคมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย มิได้นิ่งนอนใจได้สั่งการให้คณะกรรมการจัดการแข่งขันประชุมพิจารณาโทษต่อเนื่อง โดยมติสมาคมมีดังต่อไปนี้

1. ระงับใบอนุญาตแข่งขัน FMSCT License No. RR 67/010 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
2. งดออกใบอนุญาต FMSCT License / FIM License ประจำปี 2568
สมาคมฯ มีนโยบายส่งเสริมกีฬาแข่งรถจักรยานยนต์ตั้งแต่ระดับยุวชนจนถึงอาชีพ ไม่ส่งเสริมให้เกิดความรุนแรงและเสียหายต่อภาพพจน์กีฬาแข่งรถจักรยานยนต์

ล่าสด กันตพัฒน์ แยบการไท นักบิดหมายเลข 29 ที่โดนชนจนล้ม จนกลายเป็นดราม่าหนักในโลกโซเชียล โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องนี้ว่า รู้จักกับคู่กรณีมานาน แถมฝากถึงผู้ใหญ่บางคนสุดเดือดไว้ด้วย

"ผมกับน้อง ผมรู้จักกับมาตั้งแต่ปี2020 ตอนนั้นน้องอยู่Honda academy ผมได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ช สอนการขับขี่ใน Honda academy ก็รู้จักกันมานานแล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวาน หลังจากแข่งขันเสร็จ น้องก็ได้เดินมาหาผม ยกมือไหว้ผม เดินมาขอโทษผมแล้ว ผมในฐานะนักแข่งรุ่นพี่ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรน้อง เวลาต่อมาน้องได้โทรหาผม แต่ผมไม่ได้รับเพราะผมรู้สึกfail ไม่พร้อมที่จะพูดคุยตอนนั้น และผมก็ไม่ได้เป็นอะไรมากครับ ในความโชคดีคือผมไม่ได้รับบาดเจ็บที่รุนแรง ตอนนี้น้องก็ได้รับบทลงโทษพอสมควร ผมคิดว่าเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับน้อง"


"และก็มีอีกเรื่องนึงผมงงกับความคิดผู้ใหญ่บางคน อดีตนักแข่งมือโปรที่บอกว่าสมัยก่อนหนักกว่านี้อีก พูดเพื่ออะไร ยุคนี้มันยุคไหนแล้ว การกระทำแบบที่เขาพูดผมคิดว่าใครๆก็ทำได้นะ แต่นักแข่งทุกวันนี้เขามีความเป็นมืออาชีพพอ เขาไม่ทำกันหรอกครับ การแข่งขันมีกฎระเบียบ เป็นสากลมากขึ้น เพื่อพัฒนาวงการเราให้ดีขึ้น ทำอะไรนึกถึงเพื่อนร่วมอาชีพด้วย ผมจะพูดกับคนที่ผมรู้จักสนิทเสมอว่า แข่งรถเวลามันสั้น แต่มิตรภาพมันยาว ผมไม่รู้นะคนอื่นจะมองว่าผมเป็นคนยังไง แต่ผมไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเพื่อนร่วมอาชีพ ผมเป็นคนที่ชอบโม้ไปหน่อย เดินไปโม้แทบทุกทีม ผมชอบคุยครับ ถ้าผมเงียบแปลว่าผมตื่นเต้นครับ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบครับ รักทุกคนครับ (คนบางคนอาจมองว่าผม mindset ไม่ดี)"