หน้าแรกแกลเลอรี่

เพื่อความยั่งยืน

โจโจ้

25 ม.ค. 2567 04:20 น.

เป็นห้วงแห่งความสุขของแฟนกีฬาชาวไทยนอกจากผลงานของช้างศึกทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอล “เอเชียนคัพ 2023” รอบสุดท้ายแล้ว

ล่าสุดในมหกรรมยูธโอลิมปิกเกมส์ ฤดูหนาว ครั้งที่ 4 ที่เมืองคังวอน ประเทศเกาหลีใต้ นักกีฬาสาวไทย “ชมพู่ อาเยเซ กัมเปออล สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของวงการกีฬาไทยหลังจากคว้าเหรียญเงินได้สำเร็จ ในประเภทบอบสเลจ หรือเลื่อนน้ำแข็ง ประเภทโมโนบอบหญิง

โดยที่เหรียญทองเป็นของ “มายา วอยต์” จากเดนมาร์ก 1.53.31 นาที และเหรียญทองแดง “มิฮาเอลา อเล็กเซีย แอนตอน” จากโรมาเนีย 1.54.34 นาที

“ยูธโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาว” ครั้งนี้นับเป็นหนที่ 2 ของนักกีฬาเยาวชนไทยที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมประชันความแข็งแกร่งกับเหล่าชาติสมาชิกจากทั่วโลก

ไม่ง่ายเลยกับคำว่า “ความสำเร็จ” หรือสมหวังในมหกรรมกีฬาใหญ่แบบนี้

ความสำเร็จของ “น้องชมพู่” ในหนนี้จะเป็นแรงผลักดันให้เหล่าเยาวชนไทยให้มีความฮึกเหิมมีกำลังใจและมีเป้าหมายในเรื่องกีฬาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

ถือเป็น “ไอดอล” ให้กับเยาวชนรุ่นหลังได้เป็นอย่างดีสำหรับเส้นทางในการเล่นกีฬา

รวมถึงสร้างความฮึกเหิมให้กับทัพนักกีฬาไทยที่กำลังจะลงชิงชัย “โอลิมปิกเกมส์ 2024” ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส รวมถึงคนที่กำลังไล่ล่าโควตา

อย่างที่เคยบอกไม่ว่ากีฬาชนิดไหนหากมีรากฐานที่ดีมั่นคงโอกาสที่จะเติบโตก้าวไปถึงยอดพีระมิดไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงเราฟูมฟักและวางเส้นทางให้กับนักกีฬาเยาวชนเหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรมโอกาสที่พวกเขาจะเติบโตเป็นกำลังให้ทีมชาติไทยคงไม่ไกลเกินเอื้อม

วันนี้เรื่องของ “วิทยาศาสตร์การกีฬา” มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการแข่งขันและฝึกซ้อม

ต้องฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว และควรนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ทั้งก่อนและระหว่างแข่งขัน

นอกจากนี้เรื่องกายภาพบำบัด นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย และด้านจิตวิทยาล้วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญเช่นกัน

หากวันนี้องค์ประกอบดังกล่าวสมบูรณ์แบบเชื่อว่าความสำเร็จอย่างยั่งยืนคงไม่ใช่เรื่องใหญ่.

โจโจ้

คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม