หน้าแรกแกลเลอรี่

จับตาปีหน้า จุดเปลี่ยนกีฬาไทย เลือกตั้งโอลิมปิก-นายกบอลใหม่

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

31 ธ.ค. 2566 05:15 น.

ส่งท้ายปีเก่า 2566 ต้อนรับเข้าสู่สิ่งใหม่ๆในปีใหม่ 2567 ทิศทางของวงการกีฬาไทย ถือว่าน่าจับตามองไม่น้อย ว่าจะเดินหน้าไปในทางใด

เริ่มจากในระดับกระทรวง หลังเรียนรู้ ศึกษาดูงานมาประมาณ 4 เดือนแล้ว “รมต.ปุ๋ง” สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คนที่ 10 ในประวัติศาสตร์ ได้เวลารุกงานด้านกีฬาแบบเต็มตัว โดยเฉพาะนโยบาย 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัส ที่ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายเอาไว้

ทั้งนี้ นายกฯเศรษฐาได้ให้แนวทางในเรื่องนี้ไว้กับ รมต.สุดาวรรณ และคณะทำงานด้านกีฬาเพื่อสานต่อ ว่า กีฬาเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) สำคัญของประเทศในการพัฒนาอย่างมีระบบ กีฬานอกจากช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชนแล้ว ยังสามารถพัฒนาเป็นอาชีพ ทั้งในบทบาทที่เป็นนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน และผู้มีวิชาชีพด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาที่เป็นที่นิยมในระดับสากล

นโยบายการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ จะเป็นการเสริมต่อการสนับสนุนกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ และของการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่จะมาช่วยผลักดันให้การกีฬาของประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้น

ย้อนกลับไป โครงการนี้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2548 ภายใต้ชื่อโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้ปรับเปลี่ยนการสนับสนุนให้กว้างขึ้น ให้รวมถึงทุกสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมกับดึงภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดกับวงการกีฬาไทย

สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล
สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล

ภายใต้โครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัส

สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยต่างๆจะได้งบสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 4 ปี ซึ่งจะทำให้สามารถวางแผนพัฒนาระยะยาวได้ และงบประมาณในส่วนนี้สมาคมกีฬา สามารถใช้จ่ายได้โดยไม่ติดระเบียบราชการ แนวทางการสนับสนุน พิจารณาถึงปัจจัยสำคัญ คือความเป็นสากลของกีฬา ความนิยมและความสนใจของประชาชนต่อกีฬา ผลงานของสมาคมกีฬาที่ผ่านมา แผนงานในการพัฒนาของสมาคมกีฬา ความโปร่งใสในการบริหารจัดการของสมาคมกีฬา การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของสมาคมกีฬา

มีคณะอนุกรรมการ 2 ชุด ได้แก่ คณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์ และกลั่นกรองการสนับสนุนสมาคมกีฬา ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการพิจารณาจัดการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน มี ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

ทั้งนี้ คณะกรรมการมีหน้าที่พิจารณากลั่นกรองแผนงานของสมาคมกีฬาต่างๆ และประสานกับรัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน เพื่อของบประมาณตามความเหมาะสม โดยโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัสนี้ มีเป้างบประมาณอยู่ที่ 1,300-1,500 ล้านบาท ต่อ 4 ปี ที่จะหามาสนับสนุนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยภายใต้โครงการนี้

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล

นับว่าเป็นงานหนักและท้าทายของ “รมต.ปุ๋ง” เป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ รัฐมนตรีกีฬายังมีภารกิจ เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 วันที่ 21-30 พฤศจิกายน 2567 ที่กรุงเทพฯ และชลบุรี ออกมาให้ดี ให้ประทับใจชาติสมาชิก และนานาประเทศมากที่สุดด้วย หลังจากเกมนี้ถูกเลื่อนมาถึง 4 ครั้งแล้ว

เพราะความเชื่อมั่นของประเทศ เป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องเรียกกลับมา

ขณะเดียวกัน ในส่วนของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ก็จะเข้าสู่วงรอบการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งตามกำหนดบอร์ดบริหารชุดปัจจุบัน จะหมดวาระหลังจบมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เดือนสิงหาคม และการเลือกตั้งจะมีขึ้นหลังจากนั้น ภายในปี 2567 หรือช้าสุด เดือนมีนาคม 2568

ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาตอนนี้ เมื่อ “บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคนเดิม อำนาจทางการเมืองไม่เหมือนเก่า จะสู้ต่อ ทำงานอีกสมัย หรือพอแค่นี้ ซึ่งในกรณีไม่รับตำแหน่งต่อ ใครกันที่เหมาะสมกับการนั่งเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิกฯคนใหม่ โดยตอนนี้บรรดาคีย์แมนกีฬาไทย เริ่มมีการขยับ มองๆผู้ที่จะเข้ามาไว้บ้างแล้ว

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

จากการเช็กเสียงล่าสุด ผู้บริหารกีฬาส่วนใหญ่มองตรงกัน ที่จะสนับสนุน คุณหญิง ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอ โอซีเมมเบอร์ มาทำหน้าที่ ด้วยเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านกีฬาไทย และในระดับโลก คอนเนกชันรอบด้าน เป็นมือประสานสิบทิศ เป็นที่รักใคร่ของคนในวงการกีฬา แต่สุดท้ายจะมีใครเข้ามาอาสาเพิ่มเติมกว่านี้อีกหรือไม่ ต้องติดตามกัน

ในระดับของสมาคมกีฬา ก็จะมีการเลือกตั้งนายกสมาคมคนใหม่ ในหลายสมาคมกีฬาเช่นกัน โดยที่แฟนๆกีฬาโฟกัสพุ่งเป้าลงไปมากที่สุด จะเป็นสมาคมกีฬาใดไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง

หลังจาก “บิ๊กอ๊อด” พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประกาศวางมือชัดเจน ก็มีผู้สมัครเข้ามาชิงตำแหน่งทั้งหมด 6 คน ซึ่งแน่นอนว่า “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ใน ครั้งนี้ นอกจากคลุกคลีกับวงการลูกหนังมาหลายสิบปี ยังได้ทีมงานระดับบิ๊กเนมมากมายร่วมทีม

ไล่เรียงตั้งแต่ วันแถลงข่าวว่าเอาแน่ก็ ได้ “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ “บอสปิ๊ป” ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสร “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ขนาบข้างประกาศร่วมสนับสนุน 100 เปอร์เซ็นต์

นวลพรรณ ล่ำซำ
นวลพรรณ ล่ำซำ

จากนั้น ในวันเปิดตัวทีมงาน ภายใต้สโลแกน Better Together : Team Thailand บอลไทยรวมใจ พัฒนาไปด้วยกัน ก็ได้ ปวิณ ภิรมย์ภักดี พร้อมด้วย อรรณพ สิงห์โตทอง อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน และ วิลักษณ์ โหลทอง เป็นอุปนายกสมาคมฯ ส่วนกรรมการ นำโดย “เดอะตุ๊ก” นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ขณะที่ เนวิน ชิดชอบ รับบทเป็นที่ปรึกษาใหญ่โดยหากจำกันได้ กลุ่มของ นวลพรรณ ล่ำซำ เนวิน ชิดชอบ และ ปวิณ ภิรมย์ภักดี ถือเป็นโต้โผสำคัญในการรวบรวม และขอความคิดเห็นจากสโมสรต่างๆ ในการแยกตัวออกมาหาสิทธิประโยชน์ไทยลีก 1 เพิ่มเติม ด้วยตัวเองไม่ขอพึ่งพาสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และบริษัท ไทยลีก ที่หลุดตัวเลขมูลค่าถ่ายทอดสดไทยลีกฤดูกาลนี้ ออกมา โดยเหลือน้อยเพียงแค่ 50 ล้านบาท เพื่อให้ทุกทีมในลีกได้มีเม็ดเงินในการบริหารจัดการทีมของตนเองได้มากขึ้นกว่าเดิม

ส่วนผู้สมัครอีก 5 รายมี พยุริน (พินิจ) งามพริ้ง, วรงค์ ทิวทัศน์, ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ, สุรชัย นิวาสพันธ์ และ คมกฤช นภาลัย จะเข้ามาท้าชิงรอลุ้นผลกันได้ในการเลือกตั้ง ที่ถูกกำหนดไว้ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ชั้น 2 ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ (แห่งใหม่ด้านหลังราชมังคลากีฬาสถาน) เวลา 13.00 น.

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายสมาคมกีฬา ที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยน เช่น สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ที่จะต้องหาคนมาแทน พลตำรวจเอกสันต์ ศรุตานนท์ ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฯก่อนหมดวาระ หลังไม่พอใจกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดของผู้ฝึกสอน ในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีน จนทำให้แฟนกีฬาผิดหวัง โดยคาดว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นเร็วที่สุด ในเดือนเมษายน 2567

ทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีใหม่ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงในระดับการบริหารงาน ตั้งแต่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เจ้ากระทรวงจะได้แสดงฝีมือแบบเต็มที่ หรือแม้แต่ตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯคนใหม่ จะเป็นใคร รวมทั้งนายกสมาคมกีฬาฟุต บอลแห่งประเทศ ไทยฯ จะได้ใครเข้ามา

หากไม่มีอะไรพลิกโผ แบบถล่มทลาย ถือว่าน่าสนใจ เพราะเราจะได้เห็นผู้หญิงมาทำงานร่วมกับรัฐ มนตรีกีฬาหญิงจะได้ประสานความร่วมมือ ร่วมกันแสดงศักยภาพในการบริหารวงการกีฬา ไปด้วยกัน

ตอกย้ำและสะท้อน ผู้นำไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายเสมอไป เป็นยุคแห่งความเสมอภาคทางเพศ

อย่างแท้จริง...

กราวกีฬาไทยรัฐ

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่