หน้าแรกแกลเลอรี่

อย่าด้อยค่า

โจโจ้

7 ก.ย. 2566 04:25 น.

หนึ่งในกระแสการพูดถึงในวงการกีฬาตอนนี้ ก็คงเป็นเรื่องกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กับเรื่องของนักเจ็ตสกีทีมชาติไทย ชุดคว้าอันดับ 1 ของโลก ปี 2022 ที่กองทุนฯ บังคับใช้กติกาใหม่ ในการให้เงินรางวัลนักกีฬาทีมชาติ ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี

ล่าสุด “ผู้จัดการกองทุนฯ” ออกมาพูดผ่านคลิปเจาะจงไปที่ “ออก้า” นครา ศิลาชัย อธิบายว่าไม่เข้าข่ายเงื่อนไขเงินรางวัล เพราะรุ่นที่ได้แชมป์โลกมีคู่แข่งแค่ 2 ชาติ! แต่พร้อมจะให้การสนับสนุนในด้านทุนการศึกษาประมาณนั้น แต่คุณพ่อ “นาคร ศิลาชัย” ก็ออกมาปฏิเสธทันควัน ขอให้นำไปช่วยนักกีฬาที่มีความจำเป็นมากกว่า

มองผิวเผินเป็นเรื่องที่ดี แต่หากมาวิเคราะห์ทุกแง่มุม ชักจะเริ่มสงสาร “น้องออก้า” ที่ตกเป็นจำเลยสังคมโดยที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยเพราะอยู่ในฐานะนักกีฬาทีมชาติวัย 10-11 ขวบ รู้แค่ต้องแข่งขันทำหน้าที่ทีมชาติไทย ต้องเอาชนะเด็กฝรั่งต่างชาติทั้งหมดที่ลงแข่งขันให้ได้เท่านั้น

สิ่งที่เป็นปัจจัยที่น่าเห็นใจน้อง ข้อแรก ออก้า ได้รับการอนุญาตมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ในการเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการ จากการกีฬาแห่งประเทศไทย

ข้อสอง น้องออก้าสู้เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อชาติ สร้างชื่อเสียงคว้าแชมป์โลก ในนามทีมชาติไทย ในรายการแข่งขันที่วงการกีฬาเจ็ตสกีทั่วโลกให้การยอมรับว่าที่นี่ คือสนามแข่งเจ็ตสกีสมัครเล่น (ไม่มีเงินรางวัล) ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

เมื่อเข้าไปค้นดูคลิปที่ ไทยรัฐออนไลน์ นำมาพูดถึง และหาดูได้ชัดเจนที่เว็บไซต์ www.jetskiprotour.com ได้เห็นภาพความจริงจังของสนามแข่ง ที่คนไทยต้องสู้กับนักกีฬาต่างชาติทั่วโลก เท่านี้ก็รู้สึกภูมิใจแล้ว แม้ในรุ่นออก้าจะต้องแข่งกับเจ้าภาพ นักกีฬาจากชาติยักษ์ใหญ่ เช่นสหรัฐฯ ที่อาจเรียกได้ว่า รุมกินโต๊ะ นักกีฬาเยาวชนเพียง 1 ถึง 2 คนจากประเทศไทย

วันนี้ไม่ได้บอกว่าฝ่ายไหนถูกผิดในเรื่องกติกาเงินรางวัลนี้ แต่ค่อนข้างจะเห็นด้วยกับสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย ที่เสนอขอให้พิจารณากีฬาด้วยข้อมูลที่ละเอียดและรู้จริง กีฬาต่อกีฬา ก่อนที่วางกติกาต่างๆ เพราะแต่ละกีฬาไม่เหมือนกัน และนักกีฬาเจ็ตสกีทีมชาติทุกคน ก็ทำหน้าที่ของตัวเองสุดกำลังความสามารถ จิตใจต้องสู้ เพราะสามารถบาดเจ็บได้ตลอด

เมื่อศึกษาข้อมูล และเอาใจเขาใส่ใจเรา ค่อนข้างจะเข้าใจจริงๆ ที่สมาคมเจ็ตสกีฯชี้แจงว่า การไปแข่งขันใช้ทุนสูงมาก และนักกีฬาก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เองจำนวนมาก และเงินรางวัลก็ไม่ได้ก้อนใหญ่โตหลายๆล้าน แบบซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ ฯลฯ แต่เขาพูดถึงรางวัล 50,000 บาท ถึง 200,000 บาท ถ้าหากคว้าชัยชนะให้ชาติไทยได้ มันมีค่าตรงกำลังใจ มีผลต่อการส่งเสริมการพัฒนากีฬาไทย เป็นสาระสำคัญ

ขอถามว่า กองทุนฯที่ตัดสินเรื่องนี้ว่ารู้จักและเข้าใจกีฬานี้ดีหรือยัง? รู้จริงหรือไม่? มีผู้แทนไปศึกษากีฬาแบบจริงจังหรือยัง?

ถ้าติดตามจริงๆ ศึกษาจริงๆ จะรู้ว่ากีฬาเจ็ตสกีไทย ต่อสู้มาจากปลายแถว และการขึ้นเป็นหัวแถวก็เป็นเรื่องที่ต้องทุ่มเทอย่างมาก คุณคิดว่าชาติชั้นนำไหนในโลกจะยอมไทย ออสเตรีย, นิวซีแลนด์, ฝรั่งเศส, กลุ่มยุโรป, กลุ่มตะวันออกกลาง จีน หรือสหรัฐอเมริกา ฯลฯ

กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มีบทบาทอย่างไร ใครๆก็เข้าใจความหมาย แต่มีสิ่งที่ไม่น่าเห็นด้วยอย่างยิ่งคือ การออกมาด้อยค่ากีฬา ในหน้าที่ ในฐานะผู้จัดการกองทุนฯ คนปัจจุบันที่กำลังจะหมดวาระ.

โจโจ้