จ่าแฉ่ง
เปิดฉาก เปิดสนาม “ฟุตบอลโลกหญิง” ครั้งที่ 9 หรือ “บอลโลกหญิง 2023” ไปเรียบร้อยโรงเรียนนกกีวี และโรงเรียนจิงโจ้แล้วนะครับ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ที่ต้องใช้โรงเรียนนกกีวีผสมโรงเรียนจิงโจ้ก็เพราะเจ้าภาพของบอลโลกหญิงครั้งนี้เป็นเจ้าภาพร่วม โดย นิวซีแลนด์ กับ ออสเตรเลีย นั่นเอง
ก่อนเปิดสนามที่เมืองโอ๊กแลนด์ของนิวซีแลนด์ มีเหตุเศร้าๆเกิดขึ้นใกล้ๆโรงแรมที่พักนักเตะบอลโลก ซึ่งตำรวจสามารถจัดการมือปืนที่เข้ามา ก่อเหตุในบริเวณดังกล่าวได้ แต่ก็มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
กลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อพิธีเปิด และการแข่งขันคู่แรกแต่อย่างใด เพราะการแข่งขันยังเดินหน้าต่อไป หลังนักเตะคู่แรกระหว่างนิวซีแลนด์ เจ้าภาพ กับ นักเตะนอร์เวย์ คู่เปิดสนาม รวมทั้งคนดูในสนามยืนไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต
คนดูในสนามที่โอ๊กแลนด์นัดนี้ มีจำนวนถึง 42,137 คน เต็มความจุของสนาม ต่างไชโยโห่ร้องด้วยความดีใจ เมื่อทีม นิวซีแลนด์ เจ้าภาพ สามารถ เอาชนะทีม นอร์เวย์ ได้อย่างหวุดหวิด 1-0
ต่อมาอีก 2 ชั่วโมง (เวลาประมาณ 5 โมงเย็น บ้านเรา) วันเดียวกัน ก็มีการเตะเปิดสนามคู่ที่ 2 ที่สนามซิดนีย์ ระหว่างเจ้าภาพร่วม ทีมชาติ ออสเตรเลีย กับทีม ไอร์แลนด์ ด้วย คนดูเต็มความจุสนามเช่นกัน
แต่เนื่องจากที่ซิดนีย์สนามค่อนข้างใหญ่จึงสามารถบรรจุได้ถึง 75,784 คน และต่างส่งเสียงไชโยโห่ร้องจนสนามแทบถล่ม เมื่อทีมจิงโจ้เอาชนะไอร์แลนด์ไปได้ 1-0 เช่นกัน จากการเตะลูกโทษ
จำนวนคนดูนัดเปิดสนามทั้ง 2 ประเทศทะลุเป้า “1 แสนคน” ตามที่ฝ่ายจัดการแข่งขันตั้งไว้ (ของจริงรวมกันถึง 117,921 คน)
ฟีฟ่าเชื่อว่าการแข่งขันบอลโลกหญิงครั้งนี้จะมีคนดูในสนามมากที่สุดนับตั้งแต่จัดมา เพราะขายบัตรล่วงหน้าไปได้แล้วถึง 1.3 ล้านบัตรจากจำนวนการเตะ 64 นัดตลอดการแข่งขัน
และยังเชื่อว่าจะมีคนดูทางโทรทัศน์ 2 พันล้านคนทั่วโลก ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากฟุตบอลโลกหญิงครั้งที่แล้วที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ ที่มีคนดูทำสถิติไว้ 1 พันล้านคน
การเตะจะลุยกันต่อไปจนถึงวันชิงชนะเลิศ 20 สิงหาคมเดือนหน้า โดยมี สหรัฐฯ เป็นเต็ง 1, อังกฤษ เต็ง 2, สเปน เต็ง 3, เยอรมนี เต็ง 4 และฝรั่งเศส เต็ง 5 อย่างที่จ่าแฉ่งรายงานไว้สัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับตัวแทนจากอาเซียนงวดนี้มี 2 ทีม ได้แก่ เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ ได้รับการวางตัวให้ เวียดนาม เป็นเต็ง 30 และ ฟิลิปปินส์ เป็นเต็ง 32 โดยมี ปานามา เป็นเต็ง 31 ขั้นกลาง (จากทีมแข่งขัน 32 ทีม)
แต่การได้ไปเตะก็ถือว่าโชคดี เพราะจากทีมที่เข้ารอบแม้ไม่ผ่านรอบแรกจะได้เงินโบนัสจากฟีฟ่าทีมละ 1.56 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 54 ล้านบาทเหนาะๆ
เสียดายแทนทีม ชบาแก้ว ชะมัด เงินจำนวนนี้ น่าจะอยู่กับ ไทยแลนด์ เรานะเนี้ย กลายเป็นเวียดนาม, ฟิลิปปินส์ ส้มหล่นใส่ซะงั้น
ก็มาถึงอีก 1 กีฬาที่จ่าแฉ่งชวนตามมาตั้งแต่สัปดาห์โน้น อันได้แก่ การแข่งขันจักรยานทางไกลฝรั่งเศส “ตูร์ เดอ ฟรองซ์” ที่โด่งดังที่สุดในยุคนี้
ขณะเขียนต้นฉบับจบเส้นทางที่ 18 เรียบร้อย เหลืออีกเพียง 3 เส้นทางเท่านั้น
ณ สเตจ หรือเส้นทาง 18 นักปั่นเวลาสะสมดีที่สุด ได้แก่ โจนัส วินจ์การ์ด จากเดนมาร์กแชมป์ปีกลาย ทำได้ 72 ชั่วโมง 4 นาที 39 วินาที ทิ้งอันดับ 2 ทาเดจ โปกาคาร์ แชมป์เมื่อ 2 ปีก่อนหน้าอยู่ถึง 7 นาที กับ 35 วินาที
สื่อนอกสรุปเรียบร้อยแล้วว่า ด้วยเส้นทางที่เหลือยากที่ทาเดจจะฮึดกลับมาได้ และเขาเองก็เปลี้ยมาก ประกาศยอมแพ้ไปแล้ว
จึงขอแสดงความยินดีกับโจนัส วินจ์การ์ด ล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ที่จะได้แชมป์อีก 1 สมัย เป็น 2 สมัยติดต่อกัน
จ่าแฉ่งขอจบเรื่อง “ตูร์ เดอ ฟรองซ์” ในวันนี้เลยนะครับ จะไม่กลับมาเขียนอีก เว้นแต่ใน 3 เส้นทางที่เหลือจะมีเหตุการณ์พลิกล็อกอย่างฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย โจนัส วินจ์การ์ด ชวดแชมป์เท่านั้นเอง.
“จ่าแฉ่ง”