หน้าแรกแกลเลอรี่

คุ้มค่าหลายต่อ

โจโจ้

15 มี.ค. 2566 04:25 น.

เคาต์ดาวน์นับถอยหลังสู่การปั่นประเพณีจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ซึ่งจะเปิดฉากอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 1-10 เม.ย. โดยทีมชายออกสตาร์ตจังหวัดกาญจนบุรี ปั่นข้ามเขตไปเข้าเส้นชัยที่ระยอง รวมระยะทาง 1,032.90 กิโลเมตร ส่วนทีมหญิงใช้เส้นทางภายในจังหวัดระยอง รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,274.10 กิโลเมตร

แม้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมากิจกรรมปั่นทางไกลอาจไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควรเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ทีมที่มาร่วมก็ถือว่าระดับแถวหน้าแม้จะไม่ค่อยฟูลทีมก็ตาม

แต่ในปีนี้เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงแล้วทำให้ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2023” มีความคึกคักเหมือนเมื่อหลายปีก่อน

เห็นได้จากทีมที่เข้าร่วมล้วนเป็นนักปั่นระดับแถวหน้าแทบทั้งสิ้นทั้งทีมชายและหญิง

ทีมชายมีทีมเข้าร่วมจำนวน 15 ทีม นำโดย “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ทีม” ซึ่งเป็นทีมระดับอาชีพของไทย รวมทั้ง “แชมป์เก่า” ทีมตรังกานู โพลีกอน จากมาเลเซีย พร้อมทีมจากเอเชีย, ยุโรป, อเมริกา และทีมชาติไทย

ส่วนทีมหญิงมีทีมระดับอาชีพ ทีมชาติและทีมสโมสรเข้าร่วมการแข่งขัน 13 ทีม นำโดย “ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม” นักปั่นทีมอาชีพหญิงของไทยในฐานะ “แชมป์เก่า” พร้อมทั้งทีมชาติไทยและทีมระดับสโมสรชื่อดังอีกมากมาย

บอกเลย “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” ถือเป็นกิจกรรมประจำปีที่สำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดที่ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดอย่างมาก ทำให้สภาพเศรษฐกิจโดยเฉพาะระดับรากหญ้ามีความคึกคักอย่างมาก

คิดแบบง่ายๆรวมทุกจังหวัดน่าจะมีเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาทอย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะเมื่อส่องดูจำนวนนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของแต่ละทีมเข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 200 คน ยังไม่รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขันอีกกว่า 200 คน

ส่วนเส้นทางถือว่าสวยงามทีเดียวเพราะผ่านแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่น สะพานข้ามแม่น้ำแคว อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และไปสิ้นสุดที่จังหวัดระยองซึ่งเป็นแหล่งผลไม้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

งานนี้คุ้มค่าทั้งนักปั่นและเจ้าภาพจัด โดยเฉพาะประเทศไทยได้ไปเต็มๆ.

โจโจ้