หน้าแรกแกลเลอรี่

"นัฐนันท์" คว้าดับเบิลแชมป์สองสนามติด ศึกจักรยานถนน ปทท.

ไทยรัฐออนไลน์

4 ก.ค. 2564 15:00 น.

“นัฐนันท์ นนทะแก้ว” ผงาดคว้า “ดับเบิลแชมป์” สองสนามซ้อน ในศึกจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 2 ที่ จ.มุกดาหาร

วันที่ 4 ก.ค. 64 การแข่งขันจักรยานประเภทถนน ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2564 สนามที่ 2 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal (ไม่มีผู้ชม) เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันวันสุดท้าย ประเภทถนน โรดเรซ และประเภทเสือภูเขา อิลิมิเนเตอร์ ที่สนามฟุตบอลเดอบุญ ฟิลด์ at เฌอ เดอบัว และพื้นที่ในสวนยาง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยได้รับเกียรติจาก ดร.อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร เขต 1 เป็นประธานในพิธีเปิดและปล่อยตัวนักกีฬา ร่วมกับ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดมุกดาหาร ร่วมในพิธี

หลังการพิธีเปิดการแข่งขัน ดร.อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ เปิดเผยว่า การแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทยครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ชาวมุกดาหารตั้งตารอคอยที่จะเป็นเจ้าภาพรายการนี้มาเป็นเวลานาน ขอขอบคุณ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ และคณะทำงานที่ได้มาจัดการแข่งขันที่จังหวัดมุกดาหาร ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับความเห็นชอบจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. อย่างเคร่งครัด ทำให้มีความเชื่อมั่นได้ว่ามีความปลอดภัยสูง และได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก

ดร.อนุรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประโยชน์ที่จังหวัดมุกดาหารจะได้รับในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันครั้งนี้ คือช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคัก หลังจากซบเซามาเป็นเวลา 2 ปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 และเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในระดับรากหญ้าไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ นอกจากนี้จังหวัดมุกดาหาร มีเป้าหมายจะพัฒนาให้เป็น “เมืองกีฬา” หรือ Sport City ต่อไปในอนาคต โดยได้มีการหารือกับ ท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี ว่าจังหวัดมุกดาหารจะขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2022” ในปีหน้า และคาดว่าจะมีอีกหลายรายการที่จังหวัดมุกดาหาร จะรับเป็นเจ้าภาพ

ด้าน “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา กล่าวว่า หากมองในภาพรวมของการแข่งขันครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จและน่าพอใจเป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 แม้ว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะกำหนดมาตรการที่เข้มงวดมากกว่าเดิม แต่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกทีมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ที่สำคัญต้องขอชื่นชมจังหวัดมุกดาหารที่ดำเนินการจัดการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยม ในปีหน้าสมาคมฯ ก็วางแผนว่าจะมาจัดการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2022” ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2565 เส้นทางในจังหวัดมุกดาหาร, สกลนคร และนครพนม โดยจะมีการสำรวจเส้นทางกันในช่วงปลายปี

“นอกจากนี้ในด้านกระแสการตอบรับจากแฟนๆ กีฬาจักรยานทางบ้าน ที่ชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในวันแรกที่ถ่ายทอดสดครอสคันทรี มียอดวิวสูงถึง 50,000 วิว และมีการแชร์ออกไปเกือบ 1,000 ครั้ง ส่วนการถ่ายทอดสดอิลิมิเนเตอร์ มียอดผู้ชม 15,000 วิว มีการแชร์ออกไปเกือบ 300 ครั้ง ขณะเดียวกันยังมีผู้ชมผ่านการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ช่องหลักหมายเลข 3 อีกหลายล้านคน โดยสถิติจากเจ้าหน้าที่ไทยพีบีเอสแจ้งมาว่า เรตติ้งผู้ชมหน้าจอพร้อมกัน 65,000 คนต่อนาที นับว่าเป็นยอดที่สูงเป็นประวัติการณ์ สำหรับสนามที่ 3 กำหนดแข่งขันที่เทศบาลตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคม โดยจะมีการถ่ายทอดสดให้ชมเช่นเดิมทั้งทางเฟซบุ๊กไลฟ์ และทางช่องไทยพีบีเอส แฟนๆ สามารถติดตามชมกันได้ทุกวัน” พลเอกเดชา กล่าว

สำหรับผลการแข่งขันประเภทถนน โรดเรซ รุ่นที่น่าสนใจมีดังนี้ ดังนี้ รุ่นทั่วไปหญิง ระยะทาง 58.40 กม. ผลปรากฏว่า 3 สาวจากทีมสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม คว้าอันดับ 1-3 ไปครอง โดยแชมป์ตกเป็นของ “ไก่” ส.ท.หญิง ศุภักษร นันตะนะ นับเป็นแชมป์สนามที่ 2 ติดต่อกัน, ที่ 2 “บีซ” ร.ท.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, ที่ 3 ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ เวลา 1.35.40 ชั่วโมงเท่ากัน

รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง ระยะทาง 58.40 กม. แข่งพร้อมกับรุ่นทั่วไปหญิง ที่ 1, ที่ 2 ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ (สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม) เวลา 1.35.40 ชั่วโมง, ที่ 2 น.ส.กมลรดา ขาวปลอด (A-Bike Design) เวลา 1.35.40 ชั่วโมง, ที่ 3 น.ส.เยาวเรศ จิตมาตย์ (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-GOGI) เวลา 1.37.05 ชั่วโมง

รุ่นเยาวชนชาย ระยะทาง 58.40 กม. ที่ 1 นายทรัพย์ประเสริฐ พิมพ์แสง (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-GOGI), ที่ 2 นายพงษ์สิน พลกล้า (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย), ที่ 3 นายกันต์กวี วางจิต (Prime 19 สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดพะเยา) เวลา 1.26.12 ชั่วโมงเท่ากัน

รุ่นเยาวชนหญิง ระยะทาง 29.20 กม. ที่ 1 “น้องน้ำ” น.ส.นัฐนันท์ นนทะแก้ว (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย) เวลา 50.08 นาที ซึ่งเป็นการคว้า “ดับเบิลแชมป์” หลังจากที่ได้แชมป์ไทม์ไทรอัลไปแล้วเมื่อวันก่อน และเป็น “ดับเบิลแชมป์” สองสนามติดต่อกัน, ที่ 2 น.ส.บุณลักษณ์ ชุ่มเกษร (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ-GOGI) เวลา 50.19 นาที, ที่ 3 ด.ญ.ปาริชาติ พลเยี่ยม (ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย รร.โคกกระเทียมวิทยาลัย) เวลา 50.23 นาที

ด้านการแข่งขันประเภทเสือภูเขาครอสคันทรี อิลิมิเนเตอร์ ในสนามนี้ สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ได้บรรจุลงปฏิทินประจำปี 2021 ในระดับ CN โดยนักปั่นที่ได้แชมป์ รุ่นประชาชนชาย-หญิง จะได้สิทธิ์สวมเสื้อที่มีลายธงชาติไทย ตามระเบียบของ ยูซีไอ ไปแข่งขันรายการต่างๆ ในฤดูกาล 2022 ที่ ยูซีไอ รับรองทั่วโลก โดยมีผลปรากฏดังนี้

รุ่นทั่วไปหญิง น.ส.นาตาลี ปัญญาวัน จาก BG Cycling Team เร่งเครื่องแซง “พลอย” น.ส.วรินทร เพ็ชรประพันธ์ จาก Amon Bike ชมรมจักรยานนครศรีธรรมราช ช่วงก่อนเข้าเส้นชัยเบียดคว้าแชมป์ไปครองสำเร็จ ส่วน วรินทร์ ซึ่งเป็นแชมป์สนามแรกได้เพียงอันดับที่ 2 ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ น.ส.จริญญา สืบจากถิ่น ทีม Samui MTB Bangkok Airways and Walailak University

รุ่นทั่วไปชาย “เบส” นายเมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ จากทีม Lomocycle ชลบุรี คว้าแชมป์ไปครอง, อันดับ 2 นายพลฉัตร นาคทองคำ จากทีม Kaze Custom Factory Team ราชนาวี, อันดับ 3 จ.ท.วัชรภรณ์ อ่อนธุรี จากราชนาวี TrinX Chaoyang OKO ส่วนผลการแข่งขันทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th

สำหรับการแข่งขันรายการต่อไปคือการแข่งขันประเภทถนน ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2564 สนามที่ 3 ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal (ไม่มีผู้ชม) ระหว่างวันที่ 16-18 กรกฎาคม ที่เทศบาลตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี นักกีฬาที่สนใจสมัครเข้าแข่งขัน สามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมฯ www.thaicycling.or.th หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ.