หน้าแรกแกลเลอรี่

เปิดใจ 4 นักมวยไทยชื่อดัง เปลี่ยนสไตล์ลุยปันจักสีลัตซีเกมส์ 2021

ไทยรัฐออนไลน์

11 มิ.ย. 2564 15:20 น.

"มร.ทิม" นักมวยจากค่าย "ศิษย์สองพี่น้อง" ได้รับใช้ชาติในกีฬาปันจักสีลัต ซีเกมส์ 2021 ที่เวียดนาม ด้าน 4 นักชกรุ่นยักษ์ประกาศทำเต็มที่ เพื่อคว้าเหรียญมาฝากแฟนชาวไทยให้ได้

หลังจากที่นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย จับมือ "มร.ทิม" นายทิมาธี ธรรมาชีวะ หัวหน้าค่ายมวยไทย "ศิษย์สองพี่น้อง" พร้อมจับ 4 นักมวยยักษ์ดีกรีระดับแชมเปียน มารับใช้ชาติด้วยการปรับเชิง เป็นนักกีฬาไปแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ เวียดนาม เป็นเจ้าภาพปลายปีนี้ 

ล่าสุด มร.ทิม หัวหน้าค่ายมวยไทยชื่อดังเผยว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดีและต้องขอบคุณสมาคมกีฬาปันจักสีลัตฯ เป็นอย่างยิ่ง ที่หันมาให้ความสำคัญกับค่ายมวยศิษย์สองพี่น้อง และตัดสินใจเลือกนักษ์มวยไทยทั้ง 4 รายของตน ไปรับใช้ชาติสู้ศึกซีเกมส์ นอกจากนั้นยังปรับเปลี่ยนสถานที่เก็บตัว ปันจักสีลัตทีมชาติไทย จากยะลามาเป็นที่ค่ายศิษย์สองพี่น้องแห่งนี้ ซึ่งถือว่ามีอุปกรณ์การฟิตซ้อมต่างๆ ได้มาตรฐานครบครัน ต้องขอขอบคุณนายกสมาคมฯ และคณะกรรมการที่ให้ความไว้วางใจ รวมทั้งขอบคุณ อ.ยงศักดิ์ ณ สงขลา กรรมการมวยผู้อาวุโส ซึ่งเป็นผู้ประสานงานอีกด้วย

ในส่วนของ 4 นักมวยไทยรุ่นยักษ์ แต่ละรายที่จะได้เป็นตัวแทนทีมชาติ มีดังนี้ "เจ้าเบ๊นซ์" ซุปเปอร์เบ๊นซ์ ว.แสงเทพ อดีตแชมป์ WBC มวยไทย รุ่นเฮฟวีเวต จะลงแข่งในรุ่น 95 กก. เผย "ได้เป็นตัวแทนต่อยรุ่นซูเปอร์เฮฟวีเวต ยอมรับว่าประหม่านิดหน่อย เพราะยังไม่เคยเห็นและคุ้นเคยกับการแข่งขันปันจักสีลัต แต่มั่นใจว่าจะมีเวลาเรียนรู้ได้ทัน และด้วยประสบการณ์กระดูกจากการชกมวยไทย ตั้งใจว่าจะทำหน้าที่ได้ดีที่สุด และตั้งเป้าถึงโอกาสลุ้นเหรียญทองในซีเกมส์ครั้งนี้ให้ได้"

ด้าน "เจ้าจุ๊น" ธงชัย ศิษย์สองพี่น้อง รุ่น 85 กก. ผู้เคยตระเวนชกมาทั่วโลกทั้งในทวีปยุโรปและเอเชีย กล่าวว่า ได้มาแข่งปันจักสีลัตครั้งนี้ คิดว่าการปรับตัวคงไม่ยากเท่าไหร่ เพราะโดยพื้นฐานส่วนตัวจากมวยไทยคงเรียนรู้ได้เร็ว การได้กลับมาแข่งขันอีกครั้ง ซ้ำยังได้เป็นตัวแทนทีมชาติอีกด้วย ถือเป็นเกียรติแก่ตัวเองและครอบครัวอย่างยิ่ง ซึ่งตนจะพยายามคว้าเหรียญรางวัลติดมือกลับมาให้ได้

ขณะที่ รุ่งราวี ศิษย์สองพี่น้อง ลงแข่งในพิกัด 80 กก. ยอมรับว่า ถูกเรียกตัวมาอย่างกะทันหันรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย แต่พอรู้รายละเอียดว่าต้องแข่งปันจักสีลัตก็คิดว่า คงไม่น่าลำบากใจสักเท่าไหร่ เพราะมีเวลาได้เรียนรู้กติกาปรับตัวพอสมควร ตนเองยิ่งดีใจที่จะได้ไปแข่งซีเกมส์ ขอพี่น้องชาวไทย ช่วยเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยด้วย และตนจะพยายามคว้าเหรียญทองกลับมาให้ได้เช่นกัน

ส่วน สะท้านฟ้า ศิษย์สองพี่น้อง อดีตแชมป์มวยรอบอีซูซุ จะลงแข่งในรุ่น 75 กก. กล่าวว่า ผู้ใหญ่คงเล็งเห็นแล้วว่า การชกในรุ่นใหญ่ๆ เหล่านี้ การนำนักมวยไทยมาปรับเชิงน่าจะเป็นผลดี เวลาที่เหลือจากนี้ เราต้องเร่งเรียนรู้โดยเร็ว ตอนนี้ เริ่มซ้อมเบาๆ กันมาได้พักหนึ่งแล้ว จากนี้ไปก็คงจะเร่งซ้อมกันให้มากขึ้น มั่นใจว่าประสบการณ์มวยไทย จะช่วยให้เอาชนะคู่แข่งในซีเกมส์ครั้งนี้ มีเหรียญติดมือกลับบ้านได้ ซึ่งตนตั้งเป้าว่าจะต้องได้ถึงเหรียญทอง

สำหรับ กีฬาปันจักสีลัต ในซีเกมส์ครั้งนี้ สมาคมฯ จะส่ง นักกีฬาทีมชาติไทย ไปแข่งทั้งสิ้น ชาย 8 รุ่น หญิง 2 รุ่น จากการชิงชัยทั้งหมด 16 เหรียญทอง ประเภทลีลา 6 ทอง ประเภทต่อสู้ 10 ทอง.