หน้าแรกแกลเลอรี่

รู้จัก “ซันนี่” กรณิการ์ นักดาบทีมชาติไทย กับเพจส่งต่อแรงบันดาลใจด้านกีฬา

ไทยรัฐออนไลน์

10 มี.ค. 2564 06:00 น.
  • ทำความรู้จัก “ซันนี่” กรณิการ์ สิริพราหมณกุล นักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทย
  • จากเด็กที่เริ่มต้นเล่นฟันดาบตามพี่สาว สู่วันสร้างชื่อด้วยตัวเองในนามทีมชาติ
  • เผยที่มาของเพจ "Fencer's Journey ตามติดชีวิตนักฟันดาบ" กับการส่งต่อแรงบันดาลใจ 

การส่งต่อแรงบันดาลใจสำหรับใครหลายคน อาจเริ่มต้นหลังจากที่ประสบความสำเร็จ หรือถึงจุดสุดยอดของเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่บางครั้งแรงบันดาลใจ อาจเริ่มต้นส่งต่อได้ง่ายๆ ในระหว่างเดินทางไปยังเป้าหมาย และแบ่งปันประสบการณ์เหล่านั้นระหว่างทาง

เหมือนกับที่ “ซันนี่” กรณิการ์ สิริพราหมณกุล นักกีฬาฟันดาบทีมชาติไทย ในประเภทดาบฟอยล์ สาวตัวเล็กแต่ใจใหญ่ ซึ่งลุกขึ้นมาสร้างเพจที่ชื่อ Fencer's Journey ตามติดชีวิตนักฟันดาบ สำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับกีฬา ที่สามารถนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

สำหรับ “ซันนี่” คือเด็กที่โตพร้อมในครอบครัวฟันดาบขนานแท้ เพราะพี่สาว “เชอร์รี่” จิตรานุช ก็เคยติดธงรับใช้ชาติเช่นกัน ในประเภทดาบเซเบอร์ อีกทั้งคุณแม่เองก็ให้การสนับสนุนลูกสาวทั้งสองคนอย่างเต็มที่

"ซันนี่" กรณิการ์ (ขวา) กับคุณแม่และพี่สาว

ขณะที่การเริ่มต้นนับหนึ่ง กับกีฬาที่ได้ชื่อว่าเป็น “หมากรุกกล้ามเนื้อ” เกิดขึ้นตอนอยู่ที่โรงเรียนวิทยาศาตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ลพบุรี ซึ่งสถานบันแห่งนี้ ถือเป็นแหล่งบ่มเพาะนักดาบรุ่นจิ๋วของเมืองไทย ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาระดับชาติ

“หนูรู้จักกับกีฬาฟันดาบครั้งแรกตอนเรียนมัธยม เพราะพี่สาว (เชอร์รี่) เล่นอยู่ก่อนแล้ว และติดทีมชาติในชุดเยาวชน ตอนแรกเริ่มเล่นเซเบอร์ก่อน จนเข้ามหาวิทยาลัย โค้ชบอกลองเปลี่ยนมาเล่นฟอยล์แทน เพราะเห็นว่าตัวเล็ก น่าจะเหมาะกว่าการเล่นเซเบอร์"

"พอเปลี่ยนมาเล่นฟอยล์ไปได้สักพัก ผลงานก็เริ่มดีขึ้น แรงกิ้งขึ้นมาอยู่อันดับต้นๆ ของประเทศ ทำให้เรารู้สึกชอบ และคิดว่าต้องเริ่มจริงจังกับมันอย่างเต็มที่"

"พอมองย้อนกลับไป ก็รู้สึกขอบคุณโค้ช (อคิรา บินซอเล็ม /อดีตทีมชาติไทย) ที่มองเห็นบางอย่างในตัวเรา จนทำให้มาได้ไกลขนาดนี้”

การเป็นนักกีฬาทีมชาติ นอกจากสภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว จิตใจก็ต้องแข็งแกร่งไม่แพ้กัน แต่การจะหลอมสภาพจิตใจให้พร้อมต่อสู้ทั้งในและนอกสนาม ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ซึ่ง “ซันนี่” กรณิการ์ ยอมรับว่า ตัวเองก็เคยผ่านประการณ์เหล่านี้มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาการหัวร้อน ที่ทำให้แพ้ภัยตัวเองและคู่แข่งในสนาม รวมถึงการโดนบูลลี่จากเพื่อนร่วมวงการบางคน ที่มองว่าไม่มีความเหมาะสม สำหรับการมีชื่อติดธงรับใช้ชาติ ในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 ที่ผ่านมา

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ผ่านจุดนั้นมาได้ ก็คือการพยายามเรียนรู้ความผิดพลาดทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านั้นขึ้นอีกในอนาคต รวมถึงมุ่งสมาธิไปโฟกัสอยู่กับการทำหน้าที่ในสนามให้ดีที่สุด

“สมัยก่อนยอมรับว่าพอเราหัวร้อน จะหลุดโฟกัสจนผลงานในสนามพังทันที แต่หลังจากนั้นก็ได้เรียนรู้ว่า เราไม่ควรไปโฟกัสที่เรื่องอารมณ์ กองเชียร์ โค้ชฝั่งตรงข้าม หรือเรื่องนอกสนาม แค่โฟกัสที่เกมที่เราเล่นก็พอแล้ว”

ส่วนการเริ่มต้นทำเพจ “Fencer's Journey ตามติดชีวิตนักฟันดาบ” ขึ้นมานั้น ซันนี่ เผยว่า เป็นเพราะอยากทำให้กีฬาฟันดาบ กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิมในเมืองไทย

เนื้อหาส่วนใหญ่ ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ฟันดาบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นการแนะนำเกร็ดความรู้ดีๆ ทั้งในและนอกสนาม เกี่ยวกับกีฬาแบบ 360 องศา เพื่อเป็นการส่งต่อแรงบันดาลใจ และเพื่อให้คนที่ไม่ใช่นักกีฬา สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้

"ซันนี่" ฝึกซ้อมกับโค้ช ระหว่างการเก็บตัวที่เกาหลีใต้

“ตอนไปซ้อมที่เกาหลีก็คิดว่า กีฬาฟันดาบยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในเมืองไทย แถมทุกวันนี้คนก็เล่นน้อยลงมาก ทำให้กลับมาคิดว่าจะทำยังไง คนถึงจะรู้จักกีฬาชนิดมากขึ้น ก็เห็นว่าเดี๋ยวนี้มียูทูบเบอร์ หรือบล็อกเกอร์ต่างๆ รีวิวสิ่งที่ตัวเองชอบหรือถนัด”

“หลังจากนั้นก็คิดต่อไปอีกว่า น่าจะมุ่งไปเรื่องไลฟ์สไตล์ของนักกีฬาฟันดาบ เพราะในบางเรื่องของนักกีฬา อาจจะไปสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนทั่วไป ถ้าเขาได้เห็นเพจ ก็อาจจะอยากรู้จักว่ากีฬาฟันดาบคืออะไร เล่นยังไง แล้วไปศึกษาหาข้อมูลต่อได้”

“เนื้อหาส่วนใหญ่ที่ลงในเพจ จะเกี่ยวข้องกับนักกีฬา เช่น ไลฟ์สไตล์ อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงรายละเอียดในการใช้ชีวิต โดยไม่ได้เจาะจงว่า ต้องเป็นนักกีฬาฟันดาบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”

สำหรับนักกีฬาที่เข้าใกล้วัย 30 บางคนอาจจะกำลังมองหาเส้นทางใหม่ของชีวิต หลังจากเลิกเล่น แต่สำหรับ “ซันนี่” กรณิการ์ กลับไม่คิดแบบนั้น เพราะยังต้องการยกระดับของตัวเองให้สูงขึ้นกว่าเดิม เพื่อต่อยอดของการเป็นนักกีฬาไทยในระดับอินเตอร์

“การเล่นเป็นตัวแทนทีมชาติไทย ในมหกรรมกีฬาอย่าง ซีเกมส์ และ เอเชียนเกมส์ ในอนาคตถ้ามีโอกาสก็ยินดีเสมอ แต่หลักๆ ตอนนี้โฟกัสไปที่การแข่งขันในระดับอินเตอร์ อย่างการแข่งขันเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ หรือชิงแชมป์โลก เพราะโดยส่วนตัวมีเป้าหมายอยากเข้ารอบลึกๆ ให้ได้”

“สำหรับตัวเอง ถึงจะมีชื่อติดทีมชาติแล้ว แต่ไม่โอกาสได้เล่นในรายการใหญ่มันก็เท่านั้น ตอนนี้ก็เลยอยากวางเป้าหมายแล้วเดินไปถึงให้ได้ แล้วหลังจากนั้นอีก 3-5 ปีค่อยว่ากันอีกครั้ง ว่ายังจะเล่นต่อไป หรือหันไปเอาดีกับการเป็นโค้ช”

เรื่อง : สุภาพบุรุษพุงตึง

กราฟิก : Sriwon Singha

ภาพ : วัชรชัย คล้ายพงษ์, เพจ Fencer's Journey ตามติดชีวิตนักฟันดาบ