หน้าแรกแกลเลอรี่

"แจ๊ค" จับมือเจ้าของโรงงานกระดาษ เตรียมผุดสนุกเกอร์อะคาเดมี่ปั้นเยาวชน

ไทยรัฐออนไลน์

1 ก.พ. 2564 15:49 น.

"แจ๊ค สระบุรี" อดีตแชมป์สนุกเกอร์สมัครเล่นโลก จับมือเจ้าของโรงงานกระดาษ เตรียมผุดศูนย์ฝึกอะคาเดมี่มาตรฐานสากลเพื่อสร้างนักกีฬารุ่นใหม่

วันที่ 1 ก.พ. 64 ความเคลื่อนไหววงการสนุกเกอร์เมืองไทยยังคงมีข่าวดี แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุด "แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัต พุ่มแจ้ง อดีตแชมป์สมัครเล่นโลกปี 2553 และยังเป็นอดีตนักสอยคิวมือ 37 ของโลก ได้บรรลุข้อตกลงร่วมมือกับ "ฟาลุค" หรือ นายณัฐพล เกื้อสุนทรวานนท์ อายุ 38 ปี นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเจ้าของโรงงานกระดาษรีไซเคิลอันดับ 1 ใน 10 ของเมืองไทย ด้วยการเตรียมผุดโครงการศูนย์ฝึกซ้อมสนุกเกอร์ขนาดใหญ่มาตรฐานสากล หรือ "สนุกเกอร์ อะคาเดมี่" ขึ้นมาในอนาคต เพื่อเปิดโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนทั้งชาย-หญิง ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่สนใจต้องการพัฒนาฝีมือและทักษะของตัวเองให้สูงขึ้น

"แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัต เปิดเผยว่า ตัวเองอยู่ในวงการนี้มากว่า 25 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวและได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ตั้งแต่เป็นนักสนุกเกอร์โนเนมไม่มีชื่อเสียง ก่อนจะได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ในสมาคมฯ ก้าวมาติดทีมชาติและได้เดินทางไปสู่การเป็นนักสอยคิวอาชีพโลก

แม้วันนี้จะไม่ได้ไปเทิร์นโปรเล่นอาชีพแล้วก็ตาม แต่วิชาความรู้ที่ตัวเองมีอยู่ทั้งที่ได้รับการถ่ายทอดจาก "โค้ชต่าย พิจิตร" ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์, "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" รัชพล ภู่โอบอ้อม ตลอดจนนักสอยคิวรุ่นพี่ๆ คนอื่นมากมาย จนทำให้ตัวเองแอบคิดในใจมาตลอดว่า อยากเป็นส่วนหนึ่งในแรงผลักดันการถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็กๆ ที่สนใจกีฬาชนิดนี้ ได้มีสถานที่ฝึกซ้อมอย่างจริงจังและเป็นระบบ จนได้มาพบกับ นายณัฐพล มีการพูดคุยกันและปรึกษาหารือเรื่องนี้กันมานานพอสมควร

กระทั่งทุกอย่างตกผลึกจนมีแนวความคิดเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่มีความตั้งใจสร้างโครงการดังกล่าวขึ้นมา ซึ่ง "แจ๊ค สระบุรี" จะเป็นคนดูแลรายละเอียดต่างๆ ในการฝึกซ้อมทั้งหมด ตั้งแต่เบสิกพื้นฐาน, เทคนิคชั้นสูง รวมไปถึงการพัฒนาต่อยอดนักกีฬาไปสู่การแข่งขันในประเทศ

ขณะที่ "ฟาลุค" นายณัฐพล ได้กล่าวว่า นอกจากธุรกิจโรงงานกระดาษที่คุณพ่อสมชาย เกื้อสุนทรวานนท์ ได้สร้างขึ้นมากับมือตัวเองเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ตัวเองก็มีความสนใจกีฬาสนุกเกอร์เป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดหนีงานไปแข่งขันแรงกิ้งในประเทศ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก จึงตั้งปณิธานกับตัวเองว่าจะต้องหาโค้ชฝีมือดีมาฝึกสอนให้ แม้ว่าจะเสียเงินทองไปเท่าไรก็ยอม เพื่อต้องการวิชาความรู้ให้มากขึ้น จึงได้ไปเรียนรู้อบรมอย่างจริงจังกับทางสมาคมฯ ทั้งโค้ชชาวต่างชาติ และ "อ.ต่าย พิจิตร" ชูชาติ นานนับปี อีกทั้งยังได้คลุกคลีกับนักแทงระดับท็อปๆ ของไทยอีกเพียบ

จากนั้นเขาก็ได้มาเจอกับ "แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัต และรู้สึกว่านิสัยใจคอทุกอย่างมันคล้ายกัน ทั้งการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและความกตัญญูรู้คุณ โดยเฉพาะความรู้ในกีฬาชนิดนี้ที่เก่งกาจหาตัวจับยาก ทำอะไรตั้งใจจริงจังเต็มที่ จึงใช้เวลาศึกษาหาความรู้มานานนับปี จากเมื่อก่อนตัวเองแทงสนุกเกอร์ไม่ค่อยรู้เรื่องว่าลูกขาวจะไปทิศทางไหน แต่ทุกวันนี้ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด

นอกจากนี้ตัวเองยังได้นักแทงฝีมือดีอย่าง "รมย์ สุรินทร์" ประพฤติ ชัยธนสกุล, "วัช หาดใหญ่" ธวัช สุจริตธุรการ และ "หรั่ง พัทยา" สุริยา สุวรรณสิงห์ มาเป็นคู่ฝึกซ้อมให้อีก จนทำให้พัฒนาฝีมือดีขึ้นตามลำดับจนมาอยู่อันดับ 83 ของประเทศ และคิดว่าอยากจะลงทุนเปิด "สนุกเกอร์ อะคาเดมี่" ขึ้นมาสักแห่ง

สำหรับ "ฟาลุค" ได้ศึกษาวิถีการบริการจัดการต่างๆ มาตลอด เนื่องจากทำธุรกิจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คิดว่าไม่น่าแตกต่างกันเท่าไร และยังได้ "แจ๊ค สระบุรี" มาเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจนี้ด้วย เชื่อว่าน่าจะเจริญเติบโตไปด้วยกัน ส่วนสถานที่ตั้งตอนนี้มองไว้คร่าวๆ แถว อ.ศาลายา จ.นครปฐม ใกล้กับ ม.มหิดล หรือถ้ามีที่ดินว่างเปล่า-ตึกร้างในกรุงเทพฯ และราคาไม่แพงมากนักก็ค่อยมาว่ากันอีกที ส่วนงบประมาณน่าจะอยู่ที่ตัวเลข 7 หลัก

นักธุรกิจไฟแรงยังเผยตอนท้ายอีกว่า อย่างไรก็ตามตัวเองเพิ่งจะสูญเสียคุณพ่อสมชาย วัย 64 ปีไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ครอบครัวกำลังอยู่ในความโศกเศร้าเพราะท่านจากไปอย่างกะทันหัน ทำให้ธุรกิจโรงงานกระดาษต้องบริหารร่วมกับพี่สาว น.ส.รัชนีพรรณ เกื้อสุนทรวานนท์ แต่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ครอบครัวปักหลักมานานแล้ว รวมถึงยังได้ลูกค้าที่ดีและมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยให้การสนับสนุนเอ็นดูตัวเองอยู่เสมอ

ส่วนตัวจึงต้องการแตกยอดออกมาทำธุรกิจเกี่ยวกับสนุกเกอร์ให้ครบวงจรบ้าง โดยเฉพาะสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมมาตรฐานเพื่อปลุกปั้นนักกีฬาตั้งแต่เยาวชน หากใครมีฝีมือและผลงานดีตัวเองจะให้การสนับสนุนลงแข่งขันอาชีพในไทย ตลอดจนการพัฒนาต่อยอดไปสู่นักแทงอาชีพโลกต่อไปในอนาคต เพราะถือเป็นหนึ่งในความฝันสูงสุดของตัวเองที่ครั้งหนึ่งในชีวิตอยากไปเหยียบที่ประเทศอังกฤษ ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็น "เมกกะแห่งวงการสอยคิว"