Lemon Juice
ได้ใจวัยรุ่นไปแบบเต็มๆ สำหรับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี ที่อนุมัติกีฬา “เบรกแดนซ์” เข้าบรรจุในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน “ปารีส 2024” เรียบร้อยแล้ว
จะว่าไป กีฬา “เบรกแดนซ์” ไม่ใช่ของใหม่ที่ไอโอซีเพิ่งจะรู้จัก และทำความคุ้นเคย เพราะกีฬาชนิดนี้ถูกบรรจุลงทำการแข่งขัน ในมหกรรมยูธ โอลิมปิก มาแล้วก่อนหน้านี้ เพราะนี่คือกีฬาที่วัยรุ่นนิยมกันมาหลายสิบปีแล้ว
ไอโอซี ค่อนข้างตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบัน จะเห็นได้จากการที่ ไอโอซีเมมเบอร์หลายๆ คน ซึ่งนำโดย “ป๋าทอม” โธมัส บาค หัวเรือใหญ่ชาวเยอรมัน และคุณปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล มักไปโผล่ตามอีเวนต์ต่างๆ ที่วัยรุ่นนิยมชุมนุมกัน
นั่นแสดงให้เห็นว่า แม้จะคณะกรรมการโอลิมปิกสากล โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในวัย 40-50 ปี แต่พวกเขาไม่ได้ทำให้ช่องว่างของตัวเองกับคนรุ่นใหม่ ห่างกันอย่างที่ควรจะเป็น
แต่สิ่งที่ไอโอซีกำลังทำอยู่ คือการเชื่อมคนสองวัยเข้าด้วยกัน เพราะนอกจาก เบรกแดนซ์ แล้ว ยังมีกีฬาชนิดใหม่ๆ ถูกบรรจุเข้าแข่งขันในโอลิมปิกมากขึ้น
ยกตัวอย่างใน “โตเกียวเกมส์ 2020” ที่จะเริ่มในอีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้ จะมีกีฬา จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์, บาสเกตบอล 3x3 ทั้งแบบชิงเจ้าความเร็ว และแบบฟรีสไตล์, สเกตบอร์ด, ปีนผา และกระดานโต้คลื่น (เซิร์ฟบอร์ด) ชิงชัยรวมกันไม่น้อยกว่า 10 เหรียญ
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีเสียงค่อนแคะจากฝั่งอนุรักษ์นิยมอยู่ไม่น้อย ที่มองว่า “เบรกแดนซ์” ยังจับแก่นสารไม่ได้ และไม่น่าถูกนำมาจัดหมวดหมู่อยู่ในประเภทกีฬา เช่นเดียวกับ “อีสปอร์ต”
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าการบรรจุ เบรกแดนซ์ เข้ามาอยู่ในโอลิมปิก คงไม่ใช่แค่การมองถึงการมีส่วนร่วมของวัยรุ่นเท่านั้น แต่ไอโอซี ยังมองไปถึงโอกาสทางธุรกิจ ที่มีสปอนเซอร์หลายราย แฝงอยู่ในกิจกรรมเหล่านี้ค่อนข้างเยอะ
เรียกได้ว่า นี่คือโอกาสทางธุรกิจแห่งใหม่ของ “โอโอซี” ก็ไม่ผิดนัก เพราะในอนาคตไม่มีใครรู้ว่า สปอนเซอร์เจ้าหลักๆ จะยังให้การสนับสนุนอยู่อีกหรือไม่ เมื่อเจอภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
ดังนั้น ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ก็ต้องลุยกันสักตั้ง ไม่แน่ว่ากีฬาเบรกแดนซ์ นอกจากจะเป็นโอกาสใหม่ของไอโอซีแล้ว ยังอาจเป็นความหวังใหม่ของทัพนักกีฬาไทย ที่จะคว้าเหรียญเพิ่มในโอลิมปิก 2024 ที่จะถึงนี้ ก็เป็นได้.