หน้าแรกแกลเลอรี่

กกท. ประสาน 2 องค์กรใหญ่ เปิดศูนย์ตรวจโด๊ปในไทยอีกครั้ง

ไทยรัฐออนไลน์

31 ต.ค. 2563 15:00 น.

กกท. เดินหน้าเต็มสูบ ตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบายกีฬาแห่งชาติ ที่ให้การควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาเป็นวาระแห่งชาติ ประสานองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดาและมหาวิทยาลัยมหิดล ต่อเนื่อง เพื่อให้ศูนย์ปฏิบัติการตรวจสารต้องห้ามของไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล กลับมาได้มาตรฐานสากล เปิดใช้ได้เหมือนเดิม หลังจากถูก วาดา ปิดชั่วคราวไปนาน

วันที่ 31 ต.ค.63 ภายหลังจากห้องปฏิบัติการตรวจสารต้องห้ามของไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ถูกปิดชั่วคราว จากคำสั่งของ องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือวาดา เนื่องจากมีปัญหาเรื่องวิธีการตรวจสอบ การส่งผลการตรวจล่าช้า และการขาดแคลนบุคลากรผู้ควบคุมคุณภาพ รวมทั้งพบว่า ยังขาดการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ อย่างเป็นรูปธรรม

ขณะที่ อินโดนีเซีย ออกข่าวไปก่อนหน้านี้ ต้องการชิงจังหวะช่วงแล็บไทยมีปัญหา เดินหน้าเอาจริงประกาศแผน หวังเป็นเบอร์ 1 อาเซียนแทน ด้วยการสร้างศูนย์ตรวจสารต้องห้ามมาตรฐานสากล ในปีหน้า 2021 โดยระบุว่า ที่ผ่านมา ส่งตัวอย่างไปตรวจต่างประเทศ ใช้งบประมาณไม่น้อย จึงคิดตั้งศูนย์ตรวจขึ้นมาเอง และแนวทางนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นที่จะเสนอตัวจัดโอลิมปิก ปี 2032 อีกด้วยนั้น

ในเรื่องนี้ “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า กกท. เดินหน้า ให้ความสำคัญกับการป้องกันการใช้สารต้องห้ามอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่า กกท. ดำเนินการตามแนวทางของคณะกรรมการนโยบายกีฬาแห่งชาติ ที่ให้การควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา เป็นวาระแห่งชาติอย่างเต็มที่ โดยที่ผ่านมา ได้ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลอยู่ตลอด เพื่อให้ศูนย์ปฏิบัติการตรวจสารต้องห้ามของไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล กลับมาได้มาตรฐานสากล เปิดใช้ได้เหมือนเดิม หลังจากถูก วาดา ปิดชั่วคราวไปนาน

“นอกจาก กกท. ได้พูดคุยกับทางมหาวิทยาลัยมหิดล อย่างต่อเนื่องแล้ว เราก็ได้ประสานกับทาง วาดา อยู่ตลอดเช่นเดียวกัน ส่วนอุปกรณ์เครื่องมือการตรวจของกกท. ซึ่งอยู่ที่ห้องปฏิบัติการตรวจสารต้องห้าม แม้เราจะซื้อมานานแล้ว อาจจะตรวจไม่ครอบคลุม เพราะตัวอย่างสารต้องห้ามใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอด แต่เราก็ได้ปรับปรุง ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ได้มาตรฐาน ซึ่งตรงนี้ต้องรอให้ทาง วาดา เดินทางมาตรวจ แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกระยะ เนื่องจากในเวลานี้ทั่วโลก ยังมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจทำให้เจ้าหน้าที่วาดา ยังไม่สะดวกเดินทางมาไทยในเวลานี้” ดร.ก้องศักด กล่าว