บี บางปะกง
ผมกลับคืนสังเวียนมารับใช้พระเดชพระคุณท่านในคอลัมน์ “ตะลุยฟุตบอลโลก” อีกครั้ง หลังจากใช้เวลากว่าสามเดือนในการฟื้นสภาพร่างกายตัวเองจากอาการเจ็บป่วย (หนัก) อย่างที่เคยเล่าไปใน “เรียงหน้าชน” เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ต้องขอบคุณเฮีย “โต้ บ้านแหลม” กับ ลูกพี่ “หมวดแซม” ที่ทำหน้าที่แทน ในช่วงที่ผมกำลังซ่อมสุขภาพอยู่ในโรงพยาบาลอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะพยายามตะเกียกตะกายกลับมาใช้พื้นที่ตรงนี้ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆโดยเฉพาะ เรื่องราวในแวดวงลูกหนังไทยของเราตามความถนัดจัดเจนของตัวเองให้แฟนๆได้ติดตามกันเป็นประจำเหมือนเคย
ปิดโครงการลงอย่างสมบูรณ์แบบไปแล้ว สำหรับ “อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ 2017” (AJFC 2017)
โครงการนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี และปีนี้เป็นปีที่ 7 แล้ว ที่ “บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต” มุ่งมั่นตั้งใจจัดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนให้เยาวชนตามหาความฝันของตัวเอง ในการไปฝึกฟุตบอลแบบมืออาชีพที่เมืองเบียร์ เยอรมนี
โดยเฉพาะกับยอดทีม “หมายเลข 1” ตลอดกาล อย่าง เอฟซี บาเยิร์น มิวนิก ที่พวกเขาเป็นสปอนเซอร์มายาวนาน
ปีนี้ถือเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด เพราะเป็นปีแรกที่เปิดกว้างให้เยาวชนทั่วประเทศที่มีใจรักกีฬาฟุตบอลสมัครเข้าร่วมได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีสังกัด ไม่ต้องมาเป็นทีม โดยในรอบแรกนั้น มีเยาวชนสมัครเข้ามามากถึงกว่า 2,000 คน
จากนั้น จึงคัดให้เหลือเพียง 40 คน เข้าสู่แคมป์ที่กรุงเทพฯ ก่อนจะได้ 9 คน ส่งไปแคมป์ระดับเอเชียที่บาหลี อินโดนีเซีย จนในที่สุด ทางโค้ชเยาวชนบาเยิร์น มิวนิก ก็ได้เลือก 4 เด็กไทย ไปลุยดินแดนอินทรีเหล็ก
4 คนที่ได้การเลือกเฟ้นให้ไปตักตวงประสบการณ์อันล้ำค่า “ครั้งหนึ่งในชีวิต” ประกอบด้วย “เวฟ” ธนาพันธ์ วันสืบเชื้อ นายทวารจากนครสวรรค์, “ปลื้ม” ปิยดนัย ประเสริฐ มิดฟิลด์จากสุพรรณบุรี, “ปาล์ม” ธวัชชัย ชัยยศ แดนหน้าจากพัทลุง และ “โก้” กิตติศักดิ์ พุฒจันทร์ ตำแหน่งกองหน้าอีกคน จากเมืองบั้งไฟ ยโสธร และเมื่อช่วงเดือนที่แล้วน้องๆทั้งสี่ก็ได้เดินทางไปที่เมืองมิวนิกเรียบร้อยแล้ว
ที่นั่นนอกจากเยาวชนจะได้รับการฝึกฝนและการแข่งขันที่เข้มข้นร่วมกับไอ้หนูแข้งทอง 54 คน จาก 25 ประเทศแล้ว พวกเขายังได้เข้า เยี่ยมชมสนามอลิอันซ์ อารีน่า แบบเจาะลึกทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ได้เข้าชมฟุตบอลนัดเปิดซีซั่นศึกบุนเดสลีกา ระหว่างเจ้าถิ่น บาเยิร์น มิวนิก กับ “นายห้างขายยา” ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
แต่ที่ต้องถือเป็นไฮไลต์ คือการได้กระทบไหล่บรรดาดาวเตะซุปเปอร์สตาร์ทีมเสือใต้อย่างใกล้ชิด ทั้ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, เรนาโต ซานเชส, คิงส์ลี โคลแมน และ เซบาสเตียน รูดี้ แบบตัวเป็นๆ
เรียกว่าเป็นการสร้างแรงบันดาลใจชั้นยอดให้กับเด็กๆที่เข้าร่วมโครงการทุกคน ได้เดินตามฝันของตัวเองอย่างไม่ย่อท้อและมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม
สมกับสโลแกนที่ อลิอันซ์ อยุธยา ได้ปักธงไว้ตั้งแต่เริ่มต้นว่า “จงกล้าคว้าโอกาส”
แล้วพบกันใหม่ในปีหน้า กับ “AJFC 2018” นะครับ!!!
บี บางปะกง