หน้าแรกแกลเลอรี่

เพราะเหตุใด? “F1 & MotoGP” ต้องสาดแชมเปญ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับผู้ชนะ

ไทยรัฐออนไลน์

21 พ.ย. 2567 22:47 น.

ไขข้อข้องใจว่าเพราะอะไร นักแข่ง เอฟวัน และ โมโตจีพี ต้องเขย่าขวดแชมเปญ และสาดเฉลิมฉลองให้กับผู้ชนะ

ในช่วงท้ายเดือนพฤศจิกายนย่างเข้าเดือนธันวาคมแบบนี้ นับเป็นช่วงเวลาที่การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต 2 รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกดำเนินมาถึงบทสรุป

ทางฝั่งรถจักรยานยนต์อย่าง MotoGP ก็ได้ผู้ชนะประจำปีเป็นที่เรียบร้อย โดยตำแหน่งแชมป์ประเภทบุคคลตกเป็นของ ฆอร์เก มาร์ติน นักบิดชาวสเปนจากทีม พริมา พราแม็ก เรซซิง

ขณะที่การแข่งขันรถสูตร 1 หรือ Formula 1 มักซ์ แฟร์สตัปเปน นักขับชาวดัตช์จากทีม เรดบูล ก็เตรียมตัวเป็นมนุษย์คนที่ 4 ที่คว้าแชมป์ F1 ได้ 4 สมัยติดต่อกันถัดจาก ไมเคิล ชูมาเคอร์, ฮวน มานูเอล ฟานโจ, เซบาสเตียน เวทเทล และ ลูอิส แฮมิลตัน

ซึ่งภาพจำของช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองแบบนี้ก็คงหนีไม่พ้นการที่นักบิดและนักขับแต่ละรายเขย่าขวดแชมเปญ แล้วปล่อยให้ของเหลวดังกล่าวเป็นตัวแทนแห่งการแสดงความยินดีกับผู้ชนะ

นี่คือหนึ่งในประเพณีที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์วงการมอเตอร์สปอร์ตทุกแขนงมาอย่างเนิ่นนาน จนหลายคนก็น่าจะสงสัยเช่นกันว่าการสาดแชมเปญฉลองชัยชนะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

แต่ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงเครื่องดื่มที่เรียกว่า “แชมเปญ” กันก่อน เพราะหลายคนอาจสงสัยและสับสนกับประเภทเครื่องดื่มที่มีชื่อว่า “สปาร์กลิง ไวน์”

ประโยคฮิตติดหูที่มักจะถูกหยิบยกมาอธิบายให้ผู้คนเข้าใจได้แบบง่ายๆ ก็คือ “แชมเปญ ทุกขวดเป็น สปาร์กลิง ไวน์ แต่ สปาร์กลิง ไวน์ ทุกขวดไม่ใช่ แชมเปญ”

กล่าวก็คือ แชมเปญ ก็คือ สปาร์กลิง ไวน์ ที่ถูกผลิตขึ้นในเขตเขตหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 160 กิโลเมตร ทางตะวันออกของกรุงปารีสเท่านั้น หากผลิตขึ้นนอกเหนือจากพื้นที่ที่กำหนด ก็จะไม่ถูกระบุว่าเป็น แชมเปญ ทันที

สำหรับประเพณีสาดแชมเปญเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในวงการมอเตอร์สปอร์ตนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นในรายการที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง เอฟวัน หรือ โมโตจีพี แต่อย่างใด

หากแต่มันมีจุดเริ่มต้นมาจากการแข่งขันรถยนต์ที่อาศัยความ อึด ถึก ทน อย่าง เลอ มัง ในปี 1966

โดยในปีนั้นผู้ชนะอย่าง โฌ ซิฟแฟร์ จากทีม พอร์ช ได้รับแชมเปญขวดหนึ่งเป็นรางวัล และด้วยความที่ขวดแชมเปญดังกล่าวถูกวางไว้กลางแดดนาน สุดท้ายจุกคอร์กจึงระเบิดออกมา ทำให้เจ้าของตำแหน่งแชมป์อย่าง ซิฟแฟร์ เปียกโชกไปทั้งตัว

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็เหมือนจะเป็นเพียงอุบัติเหตุและไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร แต่ทว่าในปีถัดมา แดน เกอร์นีย์ นักขับจากทีม ฟอร์ด และผู้ชนะในปีนั้นกลับเป็นผู้จุดประกายให้อุบัติเหตุเมื่อปีก่อนหน้ากลายเป็นประเพณี

เกอร์นีย์ ที่ได้รับแชมเปญ โมเอต์ ชองดอง เป็นรางวัล ตัดสินใจหยิบขวดขึ้นมาเขย่า แล้วสาดแชมเปญใส่บอสของเขาอย่าง เฮนรี ฟอร์ด ที่ 2 และ คาร์โรล เชลบี นับเป็นเหตุการณ์ที่จุดประกายให้วงการมอเตอร์สปอร์ตหันมาเฉลิมฉลองด้วยวิธีนี้กันถ้วนหน้า

ในภายหลัง เกอร์นีย์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เปิดใจในฐานะผู้ริเริ่มธรรมเนียมดังกล่าวไว้ว่า “สิ่งที่ผมทำมันมาจากสัญชาตญาณล้วนๆ”

“ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นคนสร้างประเพณีแบบนี้ขึ้นมา เพราะตอนนั้นผมติดอยู่ในภวังค์แห่งการเป็นผู้ชนะ และคิดแค่ว่าช่วงเวลาที่ทุกอย่างเป็นใจแบบนี้คงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในชีวิต”

“มาเม้าเหล้า เม้าเบียร์ เม้ามันส์”  ไปด้วยกัน กับงานที่ให้เราสังสรรค์อย่างสร้างสรรค์ งานที่จะขับเคลื่อน เฉลิมฉลอง และเชิดชูวัฒนธรรม กับสุรา ท้องถิ่นและคราฟต์เบียร์จากทั่วประเทศไทย ที่งาน "เมรัยไทยแลนด์" 

27 NOV - 3 DEC 2024 at Em Glass, Em Yard, G fl. Emsphere