ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ถือเป็นความคืบหน้าของวงการมอเตอร์สปอร์ต หลัง “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นัดคุยกับบริษัทวิเคราะห์เส้นทางจัดการแข่งขัน พร้อมกับ TCEP การกีฬาแห่งประเทศไทย และ รยสท. เพื่อศึกษาเส้นทางจัดการแข่งขัน Formula 1 ในประเทศไทย โดยนายกฯเศรษฐา ระบุว่า “ผมได้เน้นย้ำถึงความเหมาะสม และจะต้องไม่กระทบต่อการจราจรนานเกินไป โดยวันนี้ ทางทีมได้คัดเลือกบางเส้นทางที่น่าจะสามารถจัดงานได้ เพื่อไปศึกษาในรายละเอียดต่อ ผมคิดว่า ภายใน 1-2 เดือนนี้น่าจะมีความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม แล้วผมจะประกาศข่าวดีให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้ทราบอีกครั้ง นี่เป็นอีกอย่างที่จะผลักดัน ให้ไทยเป็น Tourism Hub และจะทำให้ชาวโลกรู้จักและอยากมาเที่ยวเมืองไทยกันอีกมาก”
ส่วนศึกเอ็นดูรานซ์นานาชาติสุดโหด “ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ 2024” ที่ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นรอบชิงชนะเลิศ ในรุ่น ST 600 รายการนี้ ทัพนักบิด “ไทยฮอนด้า” นำโดย “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว, “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์, “จิมมี่” บูรพา วันมูล พร้อมด้วย “โค้ชมุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ที่มีประสบการณ์ในการแข่งขันรายการนี้คอยให้คำแนะนำ ปรากฏว่า ทัพนักบิดไทยฮอนด้าผงาดเข้าเส้นชัย ทำเวลาได้ 4 ชั่วโมง 44.797 วินาที และทำเวลาทิ้งห่างคู่แข่งที่ตามมาในอันดับที่ 2 ถึง 4.721 วินาที
ด้าน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” ต่อสู้อย่างสุดความสามารถ หลังต้องออกตัวจากกริดที่ 13 บู๊แหลก แบบได้ใจแฟนๆไล่แซงคู่แข่งขึ้นไปถึงอันดับ 6 ในรอบที่ 4 กลับมาได้ลุ้นโพเดียมแรกของปีนี้อย่างเต็มตัว ก่อนโชคร้ายพลาดล้มออกจากการแข่งขันในรอบที่ 5 พลาดเก็บคะแนนสำคัญในสนามนี้ไปอย่างน่าเสียดาย รั้งอันดับ 11 บนตารางแชมเปียนชิป มีทั้งสิ้น 56 คะแนน ในศึกโมโตทู เวิลด์ แชมเปียนชิป 2024 สนามรายการบริติช กรังด์ปรีซ์ ที่ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร
ขณะที่ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดไทยหมายเลข 5 ในรุ่นโมโตทรี เวิลด์ แชมเปียนชิป จากฮอนด้า ทีม เอเชีย ลงบิด ครั้งแรกของชีวิต ที่ซิลเวอร์สโตน ออกตัวจากกริด ที่ 19 ไล่บี้กับคู่แข่งอย่างสุดมันส์หลังออกตัว จนทะยานขึ้นไปถึงอันดับ 15 ก่อนจะบิดคว้าอันดับ 19 มาครอง ด้วยเวลา 33 นาที 14.913 วินาที นับเป็นอันดับสูงสุดที่ทำได้ในเวิลด์กรังด์ปรีซ์
เต็มสปีด
jojoe_koy@hotmail.com
คลิกอ่านคอลัมน์ “โลกความเร็วกับไทยรัฐ” เพิ่มเติม