(บิด) โออาร์มาแล้ว

เข้าสู่บรรยากาศของมอเตอร์สปอร์ตอย่างเต็มตัวแล้ว โดยเฉพาะประเทศไทยของเรา

ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป ได้เวลาเปิดฉากการแข่งขันรายการสำคัญ ซึ่งเป็นการรวมพลนักบิดชั้นนำในทุกระดับของเมืองไทย เพื่อแย่งชิงตำแหน่งเบอร์ 1 ของประเทศ

จะเป็นรายการอื่นไปไม่ได้นอกจากการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซุปเปอร์ไบค์ ประจำปี 2566”

รายการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดรายการหนึ่งในบ้านเรา OR BRIC Superbike 2023 จะชิงชัยกันทั้งหมด 5 เรซ 4 สนาม ที่ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

เริ่มจากสนาม 1 ในวันที่ 7-9 เม.ย., สนาม2 ในวันที่ 2-4 มิ.ย., สนาม 3 ในวันที่ 28-30 ก.ค. และสนาม 4 วันที่ 21-24 ก.ย.2566 (แข่งขัน2เรซ)

มีทั้งสิ้น 5 คลาส นำโดยคลาสสูงสุดของประเทศไทย ได้แก่ ซุปเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี, ซุปเปอร์สตอก 1000 ซีซี, ซุปเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี, ซุปเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี และสปอร์ต โปรดักชัน 400 ซีซี

และมีการแยกนักแข่งรุ่น Pro ใน 3 คลาสหลักออกมาเพื่อความดุเดือดยิ่งขึ้น ได้แก่ ซุปเปอร์ไบค์ 1000 ซีซี (SB1 Pro), ซุปเปอร์สปอร์ต600ซีซี (SS1 Pro), ซุปเปอร์สปอร์ต 400 ซีซี (SS1 Pro) ทำให้นักบิดหน้าใหม่มีโอกาสได้ยืนบนโพเดียมมากขึ้น

โดยในปีนี้มียังถือเป็นก้าวสำคัญของรุ่น 1000 ซีซีอีกด้วย เนื่องจากมีการปรับกติกาให้เสมอเหมือนกับรายการชิงแชมป์เอเชีย

อันเนื่องมาจากที่รายการนี้เป็นเวทีคัดนักบิดไปสู่รายการ “เอเชีย โรด เรซซิ่ง” ในปีหน้านั่นเอง

ขณะเดียวกันยังมีการแข่งขันซึ่งเป็นซัพพอร์ตเรซของค่ายยักษ์ใหญ่เช่นเดิม โดยเพิ่มรุ่นการแข่งขันกันอย่างคึกคัก ได้แก่ Honda Thailand Talent Cup, Honda CBR1000RR-R Fireblade Trophy และ Yamaha R Series Cup, Yamaha Moto Challenge, Yamaha R3 bLU cRU Thailand

ถือเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อการพัฒนา และเพิ่มศักยภาพอย่างแท้จริง

ศึก “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซุปเปอร์ไบค์ ประจำปี 2566” ปีนี้ เป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ และน่าภาคภูมิใจสำหรับนักบิดไทยจากทุกค่ายที่จะลงชิงชัยแย่งแชมป์กัน

การันตีว่าสนามแรกของฤดูกาล 7–9 เม.ย.นี้ ความมันส์ในแทร็กจะร้อนระอุไม่แพ้แดดอันร้อนแรงในเดือน เม.ย.แน่นอน.

ยุบสภา