ไทยรัฐออนไลน์
นักแข่ง Daytona 500 ชนกันสนั่นคาสนาม เคราะห์ดีไร้ผู้บาดเจ็บ ในศึกการแข่งขันรถยนต์ NASCAR Cup Series 2021
เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 64 การแข่งขันรถ แนสคาร์ สนาม Daytona 500 ได้เปิดฉากขึ้นเวลา 03.00 น. ตามเวลาของประเทศไทย ท่ามกลางกองเชียร์ที่รายล้อมติดขอบสนาม การแข่งขันนั้นราบรื่นไปด้วยดี จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝัน ในรอบที่ 200 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของการแข่งขัน เกิดอุบัติเหตุรถแข่งชนกันสนั่นร่วมกว่า 10 คัน ทำให้ต้องยกธงเหลืองเคลียร์สนาม ก่อนที่จะกลับมาแข่งกันอีกครั้ง
อุบัติเหตุในครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยรถที่นำขบวนทั้ง 3 คันของ โจอี โลกาโน, แบรด เคเซลอฟสกี และ ไมเคิล แมคโดเวลล์ ที่วิ่งไล่บี้ตามมา ซึ่งเรียงกันเป็นที่ 1-2-3 ตามลำดับในขณะที่ธงรอบสุดท้ายโบกขึ้น (รอบที่ 200) ก่อนถึงโค้งสาม รถที่อยู่อันดับ 3 เบอร์ 34 ที่ขับโดย “แมคโดเวลล์” ไปสะกิดท้ายรถเบอร์ 2 ของ “เคเซลอฟสกี” ทำให้เสียหลักหมุนเข้าไปชนกำแพง และพุ่งไปชนรถของ “โลกาโน” เสียหลักพุ่งออกสนาม จนทำให้รถที่ขับตามหลังมาหลบไม่ทัน พุ่งชนกันระเนระนาด เกลื่อนสนาม และมีไฟลุกขึ้นท่วมชั่วขณะ ก่อนที่ทางผู้ตัดสินจะยกธงเหลืองเพื่อเคลียร์สนาม
ทางผู้ขับรถ ฟอร์ด มัสแตง สีเหลือง เบอร์ 22 ที่เป็นหัวขบวนอย่าง “โลกาโน” ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “เหมือนว่าเราทุกคนจะชนกันในจุดเดียว แม้จะไม่มีรถในทีม Penske คันใดชนะเลย แต่อย่างน้อยรถยี่ห้อ Ford ก็ชนะ แม้เราไม่สามารถชนะได้ แต่ผมดีใจมากที่ได้เห็น แมคโดเวลล์ ชนะในแมตซ์นี้ ผมคิดว่าชัยชนะครั้งนี้ควรตกไปอยู่กับ เคเซลอฟสกี มากกว่า เพราะเขามีโอกาสที่จะได้รับชัยชนะครั้งแรก ซึ่งเขาเกือบจะคว้าแชมป์มาหลายครั้งแล้ว ผมล้มลุกคลุกคลานมามาก และอยากจะผ่านเข้าไปคว้าแชมป์ Daytona 500 แต่มันก็จบลงด้วยความเลวร้าย ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิด ผมพยายามทำเต็มที่แล้ว แต่แค่คิดว่าผมขับรถของคนอื่นไม่ได้ มันน่าหงุดหงิดมาก”
สำหรับการแข่งขัน NASCAR Cup Series สนาม Daytona 500 ผู้ที่ได้แชมป์ของสนามนี้ตกเป็นของ “แมคโดเวลล์” ที่ขับรถเบอร์ 34 ส่วน “โจอี โลกโน” ที่พลาดท่าจากอันดับที่ 1 หล่นลงไปที่ 12 และ “แบรด เคเซลอฟสกี” อันดับที่ 2 ร่วงตามกันไปเป็นอันดับที่ 13 ของสนามนี้