หน้าแรกแกลเลอรี่

ยืนระยะมือ 1 ของโลก งานท้าทาย "โปรจีน-อาฒยา ฐิติกุล"

กัญจน์

6 พ.ย. 2565 05:54 น.

เป็นไปตามที่ผู้คร่ำหวอดในวงการกอล์ฟโลกคาดการณ์กันไว้ไม่มีผิด ไม่ช้าก็เร็ว “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล นักหวดวงสวิง วัย 19 ปี ที่ฟอร์มดีต่อเนื่อง จะก้าวขึ้นมาเป็นมืออันดับ 1 ของโลก

และในที่สุดก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ จากการประกาศจัดอันดับคะแนนสะสมกอล์ฟหญิงของแอลพีจีเอ ทัวร์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 สาวไทยก้าวไปยืนหนึ่งของโลกได้เป็นที่เรียบร้อย

เป็นอีกประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทยที่ต้องบันทึกไว้!!!

โดยอาฒยาขยับจากอันดับ 2 ขึ้นมาเป็นมือ 1 กอล์ฟหญิงโลกได้อย่างยิ่งใหญ่ มีคะแนนเฉลี่ย 7.1253 คะแนน แซงหน้าโค จิน ยอง โปรเกาหลีใต้ ที่มีคะแนนเฉลี่ย 7.0928 คะแนน ได้สำเร็จ

และนั่นส่งให้โปรจากจังหวัดราชบุรีกลายเป็นนักกอล์ฟคนที่ 16 ที่ได้ครองตำแหน่งมือ 1 ของโลก และเป็นนักกอล์ฟคนที่ 2 ของไทย ต่อจาก “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล รุ่นพี่ที่เคยทำได้

อีกทั้งยังเป็นรุกกี้ หรือดาวรุ่งคนที่ 2 ที่ขึ้นมือ 1 โลก ต่อจากพัค ซอง ฮยอน โปรเกาหลีใต้ ที่ทำได้เมื่อปี 2017 รวมถึงสาวไทยรายนี้ยังเป็นนักกอล์ฟคนที่ 2 ที่ครองมือ 1 ของโลก ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ด้วยวัย 19 ปี 8 เดือน 11 วัน ต่อจากลิเดีย โค ของนิวซีแลนด์ ซึ่งยึดมือ 1 โลก ด้วยอายุ 17 ปี 9 เดือน 9 วัน

ทั้งนี้ เหตุผลที่ทำให้ “โปรจีน” สร้างชื่อได้เช่นนี้ แน่นอนมาจากผลงานของเจ้าตัว ที่ยอดเยี่ยม ในปี 2022 ลงแข่งขันไปแล้ว 24 รายการ คว้าไปได้ 2 แชมป์

จากรายการ เจทีบีซี คลาสสิก ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ แชมป์แรกของเธอ ต่อมาได้แชมป์วอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิป ที่รัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2565 ได้อีก

แถมตอนนี้ ยังนำอยู่ในอันดับ 1 นักกอล์ฟที่จบใน 10 อันดับแรก รวม 14 รายการ นำอันดับ 1 คะแนนสะสมรุกกี้แห่งปี 1,487 คะแนน อันดับ 3 สกอร์เฉลี่ยต่ำสุดในทัวร์ 69.432 คะแนน

อันดับ 4 คะแนนสะสมนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี 129 คะแนน อันดับ 1 เบอร์ดี้รวมสูงสุด 375 เบอร์ดี้ อันดับ 2 นักกอล์ฟที่ทำสกอร์ช่วง 60 รวมได้ 44 รอบ และอันดับ 2 ร่วม นักกอล์ฟที่ทำอีเกิ้ลรวมสูงสุด ในทัวร์ 11 อีเกิ้ล

ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ

หลักใหญ่ใจความที่บรรดาเกจิต่างก็คาดเอาไว้ว่า อาฒยาจะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับท็อป เนื่องจาก นักกอล์ฟสาวไทยฉายแววมาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ยังเป็นมือสมัครเล่นแล้วค่อยๆไต่อันดับบินสูงเรื่อยมา

“โปรจีน” สร้างความฮือฮา และกลายเป็นที่รู้จักครั้งแรกๆในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นจากการคว้าแชมป์ เลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์ รายการเลดีส์ ยูโรเปียน ไทยแลนด์ แชมเปียนชิป 2017 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2560 ด้วยวัยเพียง 14 ปี 4 เดือน 19 วัน กลายเป็นนักกอล์ฟที่อายุน้อยที่สุด ที่คว้าแชมป์รายการอาชีพได้สำเร็จ ก่อนที่เธอจะมาได้แชมป์รายการนี้อีกครั้งในปี 2019 ด้วยวัย 16 ปี

ต่อมารับใช้ชาติคว้า 2 เหรียญทอง มหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย และเหรียญทอง ทีมผสม มหกรรมกีฬายูธ โอลิมปิก 2018 ที่อาร์เจนตินา

เข้าปี 2020 ได้เวลาอาฒยาเทิร์นโปรเป็นนักกอล์ฟอาชีพ โดยได้ลงเล่นเลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์ เต็มตัว ถัดมา ปี 2021 ระเบิดฟอร์ม คว้า 2 แชมป์ ทิปสปอร์ต เช็ก เลดีส์ โอเพ่น และวีพี แบงก์ สวิส เลดีส์ โอเพ่น ร่วมด้วยการจบ 10 อันดับแรก 14 รายการ ทำเงินรางวัลได้สูงสุดของเลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์

พร้อมรับ 3 รางวัลใหญ่ของเลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์ ทั้งเรซ ทู คอสตา เดล โซล ออเดอร์ ออฟเมอริต หรือมือ 1 ของทัวร์ ปี 2021 โดยทำสถิติเป็นนักกอล์ฟหญิงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รางวัลนี้ ด้วยวัย 18 ปี 9 เดือน 8 วัน, ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 หรือ รุกกี้แห่งปี และนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี

จากผลงานดังกล่าว ทำให้สาวไทยขึ้นมาเป็นนักกอล์ฟหญิง มืออันดับ 19 ของโลก เมื่อจบปี 2021 พร้อมคว้าตั๋วขึ้นไปเล่น แอลพีจีเอ ทัวร์ ในปี 2022 และโชว์วงสวิงจนเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปแล้ว

อาฒยากล่าวว่า การขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก มีความหมายอย่างมากสำหรับทีมงานของตน ครอบครัวของจีน กองเชียร์ และตัวเธอเอง

รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้จารึกชื่อตัวเอง ไว้ท่ามกลางนักกีฬาระดับโลก เรื่องนี้พิเศษมาก แต่การจะรักษาไว้ยากกว่ามาก ยังต้องเรียนรู้อีกมากจากนักกีฬาระดับตำนาน และผู้เล่นปัจจุบันทั้งในและนอกสนาม

พร้อมกับย้ำว่าจะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อ ครอบครัว ทีมงาน กองเชียร์ และประเทศชาติ

เรียกได้ว่าจากนี้เลี่ยงไม่ได้เลย ที่ทุกสายตาของวงการกอล์ฟโลกและกีฬาโลก จะจับจ้องมาที่ “โปรจีน” อาฒยา ว่าผลงานของเธอจะเป็นอย่างไร

โดยเฉพาะกับ 2 รายการที่เหลือในปีนี้ ทั้ง โตโต เจแปน คลาสสิก ที่แข่งขันวันนี้วันสุดท้าย ที่ญี่ปุ่น และส่งท้ายปี ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิป วันที่ 17-20 พฤศจิกายน ที่สหรัฐอเมริกา อีกทั้งในการแข่งขันปีต่อๆไปจะเพิ่มสถิติอะไรได้อีก

รวมถึงงานที่ท้าทายของสาวไทยรายนี้ กับการจะยืนระยะมือ 1 ของโลกได้นานมากน้อยเพียงใด หลังจากรุ่นพี่อย่าง “โปรเม” เอรียา ขึ้นมือ 1 ของโลกไว้ได้ 3 ช่วงเวลา

ช่วงแรก วันที่ 12-25 มิถุนายน 2017 นาน 2 สัปดาห์ ช่วงที่ 2 วันที่ 30 กรกฎาคม 2018-19 สิงหาคม 2018 นาน 3 สัปดาห์ และช่วงที่ 3 วันที่ 29 ตุลาคม 2018-3 มีนาคม 2019 นาน 18 สัปดาห์

เป็นเรื่องที่แฟนกีฬาชาวไทยห้ามกะพริบตา

ต้องติดตามกันให้ดี...

กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง