ไทยรัฐออนไลน์
เอรียา จุฑานุกาล และ อาฒยา ฐิติกุล พลาดคว้าแชมป์ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สกอตติช โอเพ่น 2021 อย่างน่าเสียดาย หลัง รีแอนน์ โอทูล ฟอร์มแรงเข้าป้าย
วันที่ 16 ส.ค. 64 กอล์ฟทัวร์ร่วมระหว่างเลดีส์ ยูโรเปียนทัวร์ และ แอลพีจีเอทัวร์ รายการทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สกอตติช โอเพ่น 2021 ซึ่ง ทรัสต์กอล์ฟ บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยีจากประเทศไทยลงนามให้การสนับสนุนหลักการแข่งขันเป็นปีแรก ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 46.5 ล้านบาท ระหว่าง 12 -15 สิงหาคม 2564 ณ สนามดัมบาร์นีลิงก์ ระยะ 6,584 หลา พาร์ 72 ในเมืองเลเวน ของสกอตแลนด์
การแข่งขันวันสุดท้ายท่ามกลางสภาพอากาศสดใส และลมไม่แรง อาฒยา ฐิติกุล ออกสตาร์ตวันสุดท้ายด้วยการตามหลังกลุ่มผู้นำเพียง 1 สโตรก เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง 9 หลุมแรกเก็บไปถึง 5 เบอร์ดี้ โดยไม่เสียโบกี้ แต่ 9 หลุมหลัง "โปรจีน" มาเสียโบกี้ที่หลุม 10 และหลุม 14 บวกกับทำเพิ่ม 3 เบอร์ดี้ จบวันที่สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 สกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 274
ทำให้ "โปรจีน" คว้ารองแชมป์ร่วมกับ ลิเดีย โค เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2020 จากนิวซีแลนด์ แพ้ รีแอนน์ โอทูล แชมป์ชาวอเมริกัน 3 สโตรก
โอทูล วัย 34 ปี จากสหรัฐฯ วันสุดท้ายทำ 8 อันเดอร์พาร์ 64 โดยไม่เสียโบกี้ คว้าแชมป์ไปครองที่สกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 271 เป็นแชมป์แรกในอาชีพนับตั้งแต่เธอลงเล่นในแอลพีจีเอทัวร์ 11 ปี และแข่งขันทั้งสิ้น 228 รายการ
ด้าน "โปรจีน" อาฒยา รับเงินรางวัลในฐานะรองแชมป์ร่วม 96,829 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3 ล้านบาท พร้อมกับยังคงเป็นผู้นำตารางคะแนนสะสม Race to Costa del Sol ของเลดีส์ ยูโรเปียนทัวร์ มี 2,037 คะแนน
โปรสาววัย 18 ปี ที่กำลังไล่ล่าสิทธิ์การเป็นสมาชิกแอลพีจีเอทัวร์ซึ่งภูมิใจกับเกมของตัวเองให้สัมภาษณ์ว่า " วันนี้จีนพัตต์ดีมาก และตีได้ดีกับการทำ 6 อันเดอร์พาร์ แต่มันก็ยังไม่เพียงพอต่อการคว้าแชมป์ แต่จีนรู้แต่เพียงว่าจีนได้พยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว และภูมิใจในตัวเองค่ะ ส่วนเป้าหมายในปีนี้ของจีน ก็คือพยายามพัฒนาการเล่นของตัวเองในทุกๆ วัน และพยายามที่จะคว้าการ์ดทัวร์ เพื่อเป็นสมาชิกของแอลพีจีเอให้ได้ค่ะ "
"โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล อดีตนักกอล์ฟมือ 1 ของโลก ออกรอบในฐานะผู้นำร่วม ทำผลงานได้น่าประทับใจในวันสุดท้าย ประเดิมด้วยการทำอีเกิ้ลที่หลุม 2 แต่มาเสียโบกี้ที่หลุม 8 จากนั้นช่วง 9 หลุมหลังทำเพิ่มอีก 3 เบอร์ดี้ จบวันสุดท้ายเก็บเพิ่ม 4 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 ได้อันดับ 4
โปรสาวเจ้าของแชมป์เมเจอร์ 2 สมัยชาวไทย ทำผลงานได้ดีตลอดสัปดาห์ที่ลิงก์คอร์ส กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า "เมสนุกมากๆ กับการเล่นสนามลิงก์ เพราะรู้สึกว่าน่าสนใจและมีความท้าทายอย่างยิ่ง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภาพอากาศว่าจะเป็นอย่างไร สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่สนุกมาก และได้ประสบการณ์ที่ดีจากการแข่งขันครั้งนี้ค่ะ "
“โปรจูเนียร์” จัสมิน สุวัณณะปุระ วันสุดท้ายเก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 69 สกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 281 จบอันดับ 15 ร่วม
โปรสาววัย 28 ปี เจ้าของรองแชมป์รายการ เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น 2020 ได้เรียนรู้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในสัปดาห์นี้เผยว่า "จูเนียร์ไม่ค่อยได้เล่นสนามที่ลมแรงแบบนี้บ่อยนัก เพราะปกติเล่นในสกอตแลนด์แค่สองสัปดาห์ต่อปี ดังนั้นการที่ได้กลับมาที่นี่และเล่นในสนามที่ลมแรงมาก และเป็นลิงก์คอร์ส เป็นประสบการณ์ที่สนุกค่ะ ในสัปดาห์นี้ จึงได้เรียนรู้ว่าไฮบริดจ์สามารถตีได้ไกล 130 หลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ สำหรับตัวจูเนียร์เอง อีกทั้งตลอดการเล่นเราต้องปรับการเล่นตลอด และต้องทำให้ดียิ่งๆ ขึ้น และได้เรียนรู้จากการตีแต่ละช็อต"
ส่วนผลงานของนักกอล์ฟไทยรายอื่น "โปรเมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ วัย 22 ปี วันสุดท้ายทำเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 69 สกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 282 ได้อันดับ 22 ร่วม ขณะที่ “โปรแพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ วัย 21 ปี มืออันดับ 13 ของโลก เก็บเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์ 67 สกอร์รวม 5 อันเดอร์พาร์ 283 ได้อันดับ 27 ร่วม
"โปรพริม" พริมา ธรรมมารักษ์ ที่ได้รับเชิญจากทรัสต์กอล์ฟมาแข่งขันรายการนี้ วันสุดท้ายสกอร์ อีเวนพาร์ 72 สกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 286 ได้อันดับ 37 ร่วม นับเป็นผลงานที่ดีเพียงพอให้เธอคว้าสิทธิ์ร่วมแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์สุดท้ายของปี รายการ เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น ระหว่าง 19-22 สิงหาคมนี้ ที่สนามคาร์นุสตี้ ในสกอตแลนด์ และนับเป็นครั้งที่สองที่ "โปรพริม" ได้แข่งขันรายการ วีเมนส์ โอเพ่น
โปรสาววัย 29 ปี เผยถึงความรู้สึกว่า "การที่ได้มีโอกาสเล่นในบริติช โอเพ่น ครั้งที่สองเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับพริม พริมมาเล่นที่ดัมบาร์นีครั้งแรกและสนามแห่งนี้จะยังคงเป็นหนึ่งในสนามที่พริมชอบมากที่สุด พริมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าการได้มาเล่นที่นี่จะทำให้เราได้มีโอกาสได้อยู่เล่นต่ออีกหนึ่งรายการ พริมต้องขอขอบคุณทรัสต์กอล์ฟเป็นอย่างยิ่ง ที่ให้โอกาสพริมได้มีสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมที่ดัมบาร์นี่ และนำไปสู่การผ่านการคัดเลือกไปเล่นที่สนามคาร์นุสตีด้วย"
ด้าน ทรัสต์กอล์ฟ ผู้นำด้านเทคโนโลยีกอล์ฟในประเทศไทยและเป็นผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันครั้งนี้ยังได้จัดกิจกรรมสะสมเงินบริจาคเพื่อมอบให้แก่มูลนิธิรามาธิบดี และระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (National Health Service) ของสหราชอาณาจักร หน่วยงานละ 46,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,531,200 บาท รวมทั้งสิ้น 92,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,062,400 บาท จากการทำเบอร์ดี้และอีเกิ้ลในการแข่งขันรอบที่ 3 เพื่อร่วมสมทบทุนโครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในการเตรียมความพร้อมของบุคลากร เครื่องมือแพทย์ ห้องผู้ป่วย ในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
ดร.ปริญ สิงหนาท ผู้ก่อตั้ง ทรัสต์ กอล์ฟ กล่าวว่า “ทรัสต์กอล์ฟ ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะ และรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้สนับสนุนทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สกอตติช โอเพ่น 2021 เป็นปีแรก เรามีความมุ่งมั่นในการพัฒนาวงการกีฬากอล์ฟไทยสู่ระดับสากล ผ่านการร่วมมือกับนักกอล์ฟอาชีพรุ่นใหม่ที่ลงแข่งขันในเวทีระดับโลกในการสร้างสรรค์หลักสูตรการฝึกอบรมที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสนับสนุนทัวร์นาเมนต์ระดับโลกเพื่อช่วยสร้างโอกาสและผลักดันให้นักกอล์ฟไทยได้มีโอกาสเดินทางไปสร้างผลงานในรายการใหญ่ ๆ ที่ต่างประเทศ และเพื่อแสดงศักยภาพของนักกอล์ฟไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในวงการกอล์ฟสากล”
“แม้การดำเนินงานของเราจะมุ่งเน้นเรื่องกีฬากอล์ฟเป็นหลัก แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดในเมืองไทยที่กำลังเข้าขั้นวิกฤติ ทำให้เราพยายามคิดหากิจกรรมที่จะมีส่วนช่วยเยียวยาและสร้างประโยชน์คืนสู่สังคมให้มากขึ้น ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากมีจุดประสงค์หลักเพื่อมอบเงินบริจาคแก่มูลนิธิรามาธิบดีแล้ว ยังช่วยแสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของคนไทยทุกภาคส่วน ซึ่งไม่ว่าจะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในแวดวงใด ก็สามารถร่วมให้ความช่วยเหลือและเยียวยาสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศได้อย่างไร้ข้อจำกัด ซึ่งทรัสต์กอล์ฟ รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ค่ะ” ดร.ปริญ สิงหนาท กล่าวสรุป