หน้าแรกแกลเลอรี่

ลองคิดให้ดี

โจโจ้

7 ก.ค. 2567 05:16 น.

ใกล้ไปทุกที “โอลิมปิกปารีส 2024” ที่จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ก.ค. ยาวไปถึง 11 ส.ค. อัปเดตยอดทัพไทยที่ไปไล่ล่าเหรียญทองล่าสุด 51 คน จาก 17 ชนิดกีฬา

แม้ยอดทัพนักกีฬาไทยในปี 2024 จะมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาแต่สุดท้ายความหวังคงหนีไม่พ้นเทควันโด “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ แชมป์เก่าในรุ่น 49 กก.หญิง ที่ปราบมาเรียบทุกคนในรุ่นนี้ เหลือแค่ว่าในช่วงแข่งขันจะชนะใจตัวเองได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง

ความหวังรองลงมาไม่พ้นมวยสากล ที่วันนี้คว้าโควตาได้มากถึง 8 รุ่น แต่ก็ยังน้อยกว่าคราวซิดนีย์ที่มี 9 รุ่น ดูจากความหวังน่าจะมาจากนักชกหญิงที่โอกาสค่อนข้างเปิดกว้างเพราะมีถึง 5 รุ่น มากกว่าชายที่ได้ไปเพียงแค่ 3 รุ่น แต่ก็ประมาทนักชกรุ่นเล็กอย่าง “เจ้าเหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด ความหวังสูงสุดของทีมหมัดไทยเมื่อครั้งที่แล้ว หนนี้ก็ยังถูกจับตาเช่นเดิม

ส่วนอีกคนที่ดูเหมือนเป็นม้ามืดและหลายคนหวังเป็นเซอร์ไพรส์ของทีมกำปั้นไทย “บรรจง สินศิริ” รุ่น 63.5 กก. ที่ดูเหมือนจะมีเทพีแห่งโชคเข้าข้างในการคว้าโควตาครั้งนี้ แต่ทั้งนั้นในรุ่นของบรรจงถือเป็นพระกาฬที่ระดมไปด้วยยอดนักชกขอเพียงติด 1-3 ก็ยอดแล้ว

ขณะที่นักชกหญิงหนนี้ดูเหมือนจะเข้าทางในหลายเรื่อง อย่างล่าสุด 2 นักชกไทยถูกจับให้เป็นมือวางในการจับสลาก เท่ากับว่าโอกาสที่จะเจอของแข็งมีน้อย จากนั้นหากมีโชคได้บายด้วย โดยเฉพาะรุ่นใหญ่ๆ อาจชกเพียง 2 ถึง 3 ครั้ง ก็จะมีเหรียญติดมือทันที

ด้านจอมพลังที่เคยเป็นความหวังเหรียญทองแต่ระยะหลังห่างหายจากความสำเร็จไปนาน เนื่องจากติดปัญหาการใช้สารต้องห้ามทำให้ครั้งนี้เริ่มกลับเข้าสู่วงโคจรและเป็นความหวังของทัพนักกีฬาไทยอีกครั้ง

สุดท้ายแล้วปารีสเกมครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นนักกีฬาหน้าเดิมๆ ที่จะเป็นความหวังของคนไทย อาจจะมีเพียงแบดมินตันที่น่าจะสอดแทรกเป็นเซอร์ไพรส์สร้างความสุขให้กับคนไทยได้

แต่ก็ไม่ใช่งานง่ายซะทีเดียว เมื่อหันมามองปัญหาลึกๆอย่างแท้จริงแล้ว หลายสมาคมต่างบนเหมือนกันถึงจำนวน “ไอดีการ์ด” ของแต่ละสมาคมที่ได้รับรู้สึกไม่เพียงพอกับจำนวนของนักกีฬาที่ต้องดูแล

ที่ชัดเจนและกำลังร้องขอไปยัง 2 หน่วยงานกีฬาคณะกรรมการโอลิมปิกไทยและการกีฬาแห่งประเทศไทย “มวยสากล” ที่อยากได้จำนวนพี่เลี้ยงขึ้นไปดูแลนักมวยที่มุมเวลาขึ้นชกสุดท้ายคงต้องมาลุ้นว่าจะได้หรือเปล่า

ส่วนนี้ใครอาจมองเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่บอกเลยสำคัญมาก โดยเฉพาะนักชกหญิงที่ต้องมีพี่เลี้ยงที่เป็นผู้หญิงในการนวดเวลาพักยกอยู่มุม ถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เรียกร้องไปจะได้ตามที่ต้องการหรือไม่

เมื่อหันมาดูทางการกีฬาประเทศไทยที่เตรียมตั้ง “ศูนย์ไทยเฮ้าส์” คอยดูแลนักกีฬาดูเหมือนจะมีจำนวนโควตาไอดีการ์ดมากไปหรือเปล่า ลองคำนวณเล่นๆใกล้เคียงกับจำนวนนักกีฬา ถ้าเข้าใจไม่ผิดมีมากถึง 51 ใบ

ทำให้เป็นคำถามที่ต้องเอามาถกกันว่าความสำคัญระหว่างสมาคมกีฬากับไทยเฮ้าส์

ใครสมควรจะมาก่อน ไม่ได้คิดขัดแย้งเพียงแต่ครั้งนี้ถ้าเป็น “ซีเกมส์-เอเชียนเกมส์” ซึ่งมีจำนวนนักกีฬาเยอะ ผมเห็นด้วยกับจำนวนเจ้าหน้าที่ไทยเฮ้าส์ที่ต้องคอยบริการนักกีฬา ดูแลในเรื่องของอาหารรวมถึงนักกายภาพที่เอาไปเสริมคณะนักกีฬา

แต่โอลิมปิกเกมหนนี้หรือทุกครั้ง จำนวนนักกีฬามีแข่งมีแค่เพียงหลัก 10 ความจำเป็นที่เราต้องใช้เจ้าหน้าที่ในศูนย์ไทยเฮ้าส์เยอะขนาดนั้น ผมว่ามันเป็นตรรกะที่คิดผิดเพราะสุดท้ายแล้วนักกีฬาก็ต้องอยู่ในหมู่บ้านนักกีฬาเป็นหลัก การจะออกมาข้างนอกเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร

คงต้องฝากนายใหญ่ค่ายหัวหมาก “ดร.ก้องศักด ยอดมณี” น่าจะพิจารณาในเรื่องนี้หรือทบทวนใหม่หากลดจำนวนเจ้าหน้าที่ไทยเฮ้าส์ลง แล้วไปเพิ่มให้กับเจ้าหน้าที่ของสมาคมกีฬา ผมว่าน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่านี้

ก็แค่ความคิดของคนไทยที่อยากเห็นความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทยเท่านั้น.

โจโจ้

คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม