ไทยรัฐฉบับพิมพ์
2024 เป็นอีกปี ที่ช้าง อินเตอร์เนชั่น แนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ได้เป็นเจ้าภาพ ศึกซุปเปอร์คาร์ระดับโลก
“จีที เวิลด์ ชาเลนจ์ เอเชีย 2024” ถือเป็นการยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตในเมืองไทยพร้อมกับการสร้างความหลากหลายไปในตัว
รายการนี้เป็นหนึ่งในการแข่งขันรถซุปเปอร์คาร์ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในทวีปเอเชีย
และยังเป็นหนึ่งในซีรีส์การแข่งขันระดับโลก ซึ่งแข่งขันใน 4 ทวีปทั่วโลก ทั้งอเมริกา, ยุโรป,ออสเตรเลีย และเอเชีย
สำหรับประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ 1 ใน7สนาม จาก 4 ชาติ ที่มีแข่งขันในทวีปเอเชีย ประกอบด้วย มาเลเซีย, ไทย, ญี่ปุ่น, และจีน
ซึ่งทั้ง 7 สนามในฤดูกาลนี้ ได้แก่ สนาม 1 วันที่ 18-21 เม.ย. ที่เซปัง ประเทศมาเลเซีย, สนาม2 วันที่ 10-12 พ.ค. ที่ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
จากนั้นอีก 4 สนามจะดวลกันที่ประเทศญี่ปุ่น
สนาม 3 วันที่ 7-9 มิ.ย. ที่สปอร์ตแลนด์ซูโก้, สนาม 4 วันที่ 21-23 มิ.ย. ที่ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์, สนาม 5 วันที่ 5-7 ก.ค. ที่ซูซูกะ,สนาม6 วันที่ 23-25 ส.ค. ที่โอคายามา และปิดท้ายสนาม7 วันที่ 13-15 ก.ย. ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
สำหรับสนาม 2 ที่ประเทศไทย นอกจากแฟนๆ จะได้ชมทัพซุปเปอร์คาร์ในฝัน ดวลกัน 2 เรซกันอย่างสุดมัน ในวันเสาร์ที่ 11 พ.ค. เป็นเรซที่ 1 และในวันอาทิตย์ที่ 12 พ.ค. เป็นเรซที่ 2 แล้ว
ยังมีกิจกรรมพิตวอล์กที่เปิดโอกาสให้แฟนๆที่ซื้อบัตรเข้ามาชมการแข่งขัน สัมผัสกับรถซุปเปอร์คาร์ ระดับ GT3 อย่างใกล้ชิด พร้อมกับได้กระทบไหล่กับนักแข่งระดับชั้นนำของโลก
“จีที เวิลด์ ชาลเลนจ์ เอเชีย ฤดูกาล 2024” มีนักแข่งที่ใช้รถ GT3 ตลอดฤดูกาลรวมทั้งสิ้นกว่า 33 คน จาก 8 ทีมโรงงาน ถือเป็นสถิติสูงสุดของการแข่งขัน
รถแต่ละคันที่มาแข่งครั้งนี้มีมูลค่ามหาศาล
กระทั่งในปีที่แล้วได้ถูกกล่าวขานให้เป็น “พิตวอล์กพันล้าน”
และแน่นอนว่าในปีนี้ ย่อมไม่แพ้กัน
แฟนกีฬาที่รักความเร็ว ไม่ควรพลาดไปชมความอลังการของรถแข่ง
พร้อมกับร่วมส่งแรงใจช่วยลุ้น ช่วยเชียร์นักแข่งไทยให้ขึ้นโพเดียมกันด้วย
ถ้าไปถึงแชมป์โฮมเรซต่อหน้าแฟนๆในสนามได้ มันคงจะเป็นอะไรที่สุดยอด.
ยุบสภา
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่