หน้าแรกแกลเลอรี่

รวมพลังเชียร์ทัพไทย คว้าชัยเอเชียนพาราเกมส์

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

22 ต.ค. 2566 05:17 น.

จบจากมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ทุกครั้ง จะมีการแข่งขันกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ต่อเนื่อง หนนี้ก็เช่นกัน สาธารณรัฐประชาชนจีน จะเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 โดยจะเริ่มออกสตาร์ต ตั้งแต่วันนี้ (22 ตุลาคม) และชิงชัยกันไปจนถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2566 ที่เมืองหางโจว

สำหรับตราสัญลักษณ์การแข่งขัน จีนใช้ท่าทางของนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง ที่มุ่งมั่นไปข้างหน้า บนลู่วิ่งที่ประกอบด้วยเส้นกึ่งโค้ง 10 เส้น มีทางลาด ไล่ระดับจากสีม่วง เป็นสีแดง และสีเหลือง ทอดยาวออกไปในระยะไกล เหมือนกระแสน้ำในแม่น้ำเฉียนถัง เปรียบนักกีฬาที่พุ่งเป้าไปข้างหน้าด้วยรถวีลแชร์ ซึ่งจะปลดปล่อยพลัง และความหลงไหลออกมาในการแข่งขันครั้งนี้

ส่วน Mearts Meet, Dreams Shine หัวใจพบกัน ความฝันเปล่งประกาย คือคำขวัญของเกม ที่สื่อถึงความเชื่อมโยงระหว่างประเทศต่างๆในเอเชีย

ขณะที่มาสคอตชื่อ เฟยเฟย ได้แรงบันดาลใจมาจากวิหคศักดิ์สิทธิ์ สัญลักษณ์แห่งความสุขและความแตกต่างทางวัฒนธรรม โดยเฟยตัวแรก หมายถึง การโผบินของนก แสดงถึงการไม่แบ่งแยก ความเคารพ และภราดรภาพในสังคมมนุษย์ ส่วนเฟยตัวที่ 2 หมายถึง จิตใจอันกล้าแกร่งของนักกีฬาคนพิการที่มุ่งตามความฝัน และเอาชนะขีดจำกัดของตนเอง

ลวดลายบนปีกจนถึงแก้มของเฟยเฟย เป็นเอกลักษณ์ของวัฒธรรมเหลียงจู่ ปีกทั้งคู่ที่สยายกว้างแสดงให้เห็นถึงความงามอันทรงพลัง ตัวอักษร “i” บนรัดเกล้าของเฟยเฟย สื่อถึงเชาว์ปัญญา และเป็นสัญลักษณ์แทนเมืองหางโจวซึ่งเป็นเมืองแห่งอินเตอร์เน็ต

โดยอักษร i จะเปล่งแสงสีฟ้าในยามที่เฟยเฟยมีความสุขหรือกำลังเล่นกีฬา วงแหวนบนอกของเฟยเฟย ประกอบด้วยจุด 45 จุด เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความสุขแห่งการรวมตัวกันของประเทศสมาชิกคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งเอเชีย (APC)

ในส่วนของการแข่งขัน จีนเจ้าภาพจัดชิงชัยทั้งหมด 22 ชนิดกีฬา ชิง 566 เหรียญทอง ซึ่งทัพพาราไทย ซึ่งแยกเป็นนักกีฬา 307 คน (ชาย 186 คน และหญิง 121 คน) ผู้ฝึกสอน แพทย์ประจำทีมและเจ้าหน้าที่ 184 คน รวมทั้งหมด 491 คนเข้าร่วมครบ

ไม่ว่าจะเป็นยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บอคเซีย, เรือแคนู, หมากรุก, จักรยาน, ฟุตบอล 5 คน, หมากล้อม, โกลบอล, ยูโด, ลอนโบวล์ส, ยกน้ำหนัก, เรือพาย, ยิงปืน, วอลเลย์บอลนั่ง, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส,เทควันโด, วีลแชร์บาสเกตบอล, วีลแชร์ฟันดาบ และวีลแชร์เทนนิส

ทั้งนี้ทัพไทยซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดย ดร.ก้องศักดยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. และคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย โดย ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการฯ เป็นอย่างดี นำทัพโดย “กร” พงศกร แปยอ เจ้าของ 4 เหรียญทองวีลแชร์เรซซิ่งในเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2018

พงศกรกล่าวว่า มีความพร้อมเต็มที่ เพราะได้เก็บตัวฝึกซ้อมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เสร็จสิ้นพาราลิมปิกที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จึงมั่นใจว่าจะทำผลงานได้ดี ส่วนคู่แข่งขันยังไม่เห็นนักกีฬาเจ้าภาพ ก็หวั่นๆอยู่บ้าง แต่ก็ยังตั้งเป้าจะป้องกันแชมป์ทุกเหรียญทองเอาไว้ให้ได้

“แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักวีลแชร์ฟันดาบทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2012 และแชมป์โลกปีล่าสุด ก็พร้อมเช่นกัน ในการลงป้องกันแชมป์ประเภทเอเป้ บุคคลหญิง คลาสบี โดยครั้งนี้เป็นงานที่ท้าทายของสายสุนีย์ หากทำสำเร็จ จะเป็นการได้เหรียญทองสมัยที่ 3 ในเอเชียนพาราเกมส์ หลังจากทำได้เมื่อปี 2010 ที่เมืองกวางโจว สาธารณรัฐ
ประชาชนจีน และปี 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซียมาแล้ว

ส่วนทีมบอคเซียทีมชาติไทย นำโดย วิษณุ ฮวดประดิษฐ์, วัชรพล วงษา, วรวุฒิ แสงอำภา, พรโชค ลาภเย็น ก็วางเป้าคว้า 3 เหรียญทอง เท่ากับครั้งที่แล้ว โดย “เจมส์” วรวุฒิ ดีกรีแชมป์เก่าในประเภทบุคคล บีซี 2 และทีมบีซี 1-2 ตั้งเป้าป้องกันแชมป์ให้ได้ทั้ง 2 รายการ

ด้านเป้าหมายรวมของไทยไล่เรียงจากครั้งที่แล้ว ในเอเชียนพาราเกมส์ 2018 ที่ทำผลงานคว้าอันดับ 7 ของเอเชีย ทำได้รวมทั้งหมด 23 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน 50 เหรียญทองแดง

ในครั้งนี้ กกท.ได้สรุปความคาดหวังของทัพนักกีฬาพาราไทยไว้ที่ 29 เหรียญทอง

จากกรีฑา-วีลแชร์เรซซิ่ง 10 เหรียญทอง เทเบิลเทนนิส 4 เหรียญทอง บอคเซีย 3 เหรียญทองแบดมินตัน 2 เหรียญทอง ยิงปืน 2 เหรียญทอง ลอนโบวล์ส 2 เหรียญทอง ว่ายน้ำ 2 เหรียญทอง ฟันดาบ 1 เหรียญทอง ยิงธนู 1 เหรียญทอง จักรยาน 1 เหรียญทอง และ เทควันโด 1 เหรียญทอง

ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไรน่าติดตามไม่น้อย ฝากแฟนกีฬาทั่วประเทศ รวมพลังเชียร์ทัพพาราไทย คว้าชัยในเอเชียนพาราเกมส์ครั้งนี้ไปพร้อมๆกัน

ผ่านการถ่ายทอดสดทางช่อง T SPORTS7 และ AIS PLAY

ตลอดการแข่งขัน...

กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่