ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วงการกีฬาของเราเริ่มเปิดโหมดเข้าสู่การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 กันแล้ว มหกรรมกีฬาของชาวอาเซียนกำลังจะระเบิดขึ้นอีกครั้งในระหว่างวันที่ 5–17 พ.ค.นี้
โดย “กัมพูชา” รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพวกเขาด้วย
แน่นอนว่าชนิดกีฬาที่ประชาชนชาวไทยให้ความคาดหวังกับผลงานมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้น “ฟุตบอล”
ที่ผ่านมาทีมชาติไทยของเราได้รับการยกย่องว่าเป็นเต้ยในรายการนี้ จนกระทั่งช่วงหลังฟอร์มของเราตกต่ำ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าต้องลุ้นกันทุกครั้ง
ยิ่ง 2 ครั้งล่าสุดเรา “ชวดแชมป์” แล้วด้วย
เลยกลายเป็นว่าพายุแห่งความกดดันถาโถมใส่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯอย่างหนักหน่วง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “ช้างศึกจูเนียร์” ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งจะไปแข่งขันซีเกมส์นั้น เพิ่งจะทำผลงานได้ดีในฟุตบอลรายการพิเศษ “โดฮาคัพ”
พวกเขาสามารถเสมอกับทีมชั้นนำอย่าง ซาอุดีอาระเบีย 2-2 แถมเอาชนะ “เจ้าภาพ” กาตาร์ 1-0 และแม้ว่าจะแพ้คูเวต 0-1 ในนัดชิงอันดับ 3 คว้าแค่อันดับ 4 แต่ก็ได้รับคำชมมากมายจากฟอร์มการเล่นของนักเตะยังเติร์ก
ในซีเกมส์ครั้งนี้เอง ยุทธนา หยิมการุณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทยชุดนี้ กล่าวว่า เรามีการเตรียมทีมอย่างต่อเนื่อง ผู้เล่นหลักๆก็จะเป็นชุดที่ไปคว้าอันดับ 4 จากศึกโดฮา คัพ 2023 หากว่าในช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้สามารถเรียกนักเตะที่ต้องการใช้มารวมตัวเพื่อฝึกซ้อมร่วมกันได้
ก็มั่นใจว่าจะคว้าเหรียญทองสำเร็จ
ขณะที่อิสระ ศรีทะโร กุนใหญ่ของทีมไทย ยู-23 ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า คงต้องขอความร่วมมือจากบรรดาสโมสรทั้งหลาย เนื่องจากทีมชาติไทยจำเป็นต้องใช้นักเตะที่อยู่ในแผนการทำทีม
ถึงตรงนี้ต้องขอขอบคุณสโมสรต่างๆที่ให้ความร่วมมือด้วยดีมาตลอด
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาเดินทางจริงๆคงจะต้องมาดูว่า ได้นักเตะตามที่ทีมต้องการหรือไม่ ซึ่งหากไม่เป็นดั่งที่หวัง ตนและทีมงานก็ได้เตรียมวางแผนเลือกตัวผู้เล่นที่จะทดแทนเพื่อสำรองเอาไว้แล้ว
ฝ่ายจัดการแข่งขันประกาศกำหนดการของการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลทั้งประเภททีมชายและทีมหญิง จะมีขึ้นในวันที่ 5 เม.ย.นี้ ซึ่งตามปกติแชมป์เก่าจะเป็นทีมวางอยู่ในโถที่ 1 และเจ้าภาพจะเป็นทีมวางในโถที่ 2
นั่นหมายความว่า ทีมชาติไทยมีโอกาสที่จะเจอกับเวียดนามตั้งแต่รอบแรก
ต้องตามลุ้นกันให้ดี อาจมีเซอร์ไพรส์กันก่อน
ฟุตบอลชายในกีฬาซีเกมส์ที่ผ่านมา “ช้างศึก” คว้าแชมป์มาแล้วทั้งหมด 16 สมัย มากสุดในบรรดาเพื่อนร่วมภูมิภาค แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า 2 ครั้งหลังสุด (ปี 2019 และ 2021) เป็น “นักเตะสกุลเหงียน” เวียดนาม ที่ครองความยิ่งใหญ่ในย่านนี้ บดบังรัศมีของทีมไทยจนมิด
ถ้าหาก “ช้างศึกจูเนียร์” เป็นความหวังในการไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯป่าวประกาศเอาไว้
อันดับแรกต้องทวงแชมป์ซีเกมส์ให้ได้ก่อน
เพื่อเรียกความมั่นใจและเรียกศรัทธากลับคืนมาอีกครั้ง.