หน้าแรกแกลเลอรี่

ศึก "เอฟวัน 2023" ชิงแชมป์เข้มข้น "อัลบอน" ต้องดีขึ้น

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

26 ก.พ. 2566 05:16 น.

เหลืออีกเพียงแค่ 1 สัปดาห์การแข่งขันรถที่ว่าเร็วที่สุดในโลกอย่างศึกรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ประจำปี 2023 “ฟอร์มูล่า วัน 2023” จะเปิดฉากขึ้นโดยสนามแรกจะดวลกันที่รายการ “บาห์เรน กรังด์ปรีซ์” ที่สนามอินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศบาห์เรน ระหว่างวันที่ 3–5 มีนาคม 2023

สำหรับในปี 2023 ศึก “เอฟ วัน” มีการลงสนามมากมายถึง 24 สนามด้วยกัน ประกอบด้วยที่ บาห์เรน,ซาอุดีอาระเบีย, ออสเตรเลีย, จีน, อาเซอร์ไบจาน, สหรัฐอเมริกา 3 สนาม, อิตาลี 2 สนาม, โมนาโก, สเปน, แคนาดา, ออสเตรีย, สหราชอาณาจักร, ฮังการี, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, กาตาร์, เม็กซิโก, บราซิล และปิดท้ายที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

เรียกได้ว่าคอความเร็วที่ชื่นชอบ “เอฟวัน” นั้นได้ลุ้นกันแบบยาวเหยียดเลยทีเดียว ส่วนแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย ก็ยังได้ชมกันสดๆเหมือนเดิมผ่านทางทรูวิชันส์ ช่องบีอิน สปอร์ต 1 (ช่อง 607)

ปี 2023 ถือว่าเป็นปีที่ดุเดือดแน่นอนเพราะบรรดาทีมต่างๆหวังจะคว้าแชมป์โลกปี 2023 มาครองให้ได้ โดยเฉพาะทีมเมอร์เซเดส กับเฟอร์รารี ที่ทั้งสองทีมจ้องที่จะกระชากแชมป์มาจากอ้อมอกของทัพ “เรดบูล เรซซิ่ง” ที่ครองแชมป์โลกมา 2 ปีติดต่อกันแล้ว

แชมป์โลกอย่างแม็กซ์ เวอร์สแตปเพน เจ้าของแชมป์โลก 2 สมัยล่าสุดจากทีมเรด บูล เรซซิง ยังจับคู่กับเซร์คิโอ เปเรซ ยอดทีมเมตจากเม็กซิโก เหมือนเดิม โดยปีที่ผ่านมานักขับชาวดัตช์สามารถกวาดแชมป์มาครองได้ถึง 14 สนาม ส่วนเปเรซซิวแชมป์ได้ 2 สนาม

ส่วนคู่ปรับตัวฉกาจของเวอร์สแตปเพน นั้นก็คือ ลูอิส แฮมิลตัน อดีตแชมป์โลก 7 สมัย ชาวสหราช อาณาจักรจากทีมเมอร์เซเดส แม้ว่าปี 2022 แฮมิลตัน จะจบแค่อันดับ 6 ของตารางแชมเปียนชิปแถมยังคว้าแชมป์ไม่ได้อีกด้วย ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าสาเหตุที่นักขับวัย 38 ปีไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งมาได้ก็เพราะอกหักชวดแชมป์ในปี 2021

แม้ว่าฟอร์มไม่ดีในซีซันที่ผ่านมา แต่ปีนี้ แฮมิลตันก็กลับมาดูสดชื่นมากกว่าเดิมและเต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นว่าจะกลับมาไล่ล่าแชมป์อีกครั้ง ส่วนทีมเมทของเมอร์ซิเดสก็ไม่ธรรมดา นั่นคือ จอร์จ รัสเซลล์ นักขับชาติเดียวกันที่เพิ่งย้ายมาขับเป็นปีที่สอง ซึ่งก็เริ่มปรับตัวได้แล้วน่าจะช่วยพา “แฮมิลตัน” กลับมายืนบนจุดสูงสุดได้อีกครั้ง

อีกทีมที่ต้องการคว้าแชมป์โลกมาครองก็คือ เฟอร์รารี ที่ห่างจากแชมป์โลกมานานถึง 15 ปีแล้วโดยคว้าแชมป์โลกมาครองได้ต้องย้อนไปไกลถึงปี 2007 จากฝีมือคิมี ไรโคเนน นักขับจากฟินแลนด์ สำหรับในปี 2023 นั้น ทางเฟอร์รารียังไม่เปลี่ยนไลน์อัปนักแข่งแต่อย่างใด ยังคงเป็นชาร์ลส์ เลอแคร์ นักขับจากโมนาโก รองแชมป์โลกปี 2022 กับคาร์ลอส ซายน์ นักขับจากสเปน ที่จะผนึกกำลังลงไล่ล่าแชมป์มาครองให้ได้

นอกจากทั้ง 3 ทีมก็ยังมีอีก 7 ทีม ที่ร่วมแข่งขันประกอบด้วย อัลฟา โรเมโอ, อัลฟาเทารี, อัลไพน์, แอสตัน มาร์ติน, ฮาสส์, แมคคลาเรน และวิลเลียม เรซซิ่ง ที่จะร่วมวงในการไล่ล่าแต้มและล่าโพเดียมจาก 3 ทีมตัวท็อปของการแข่งขัน

สำหรับในปี 2023 ยังมีนักขับหนึ่งเดียวของไทยอย่างอเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักขับลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ยังลงแข่งขันภายใต้ธงชาติไทยสังกัดทีมวิลเลียมส์ เรซซิ่ง ปีนี้อัลบอนได้ขยับขึ้นมาเป็นนักขับมือ 1 ของทีม โดยมีโลแดน ซาร์เจนท์ รุกกี้ชาวมะกัน ที่เพิ่งจะก้าวขึ้นมาขับรถฟอร์มูล่า วัน เป็นครั้งแรก

ในปี 2022 ทางอัลบอนเก็บได้ 4 คะแนนรั้งอันดับ 19 ของตารางแชมเปียนชิป ซึ่งนักขับวัย 26 ปี ไม่ได้พอใจกับฟอร์มการขับของตัวเองมากนัก จนทำให้ในปี 2023 นั้นเจ้าตัวลงทำการฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อพัฒนาตัวเองให้เข้ากับรถวิลเลียมส์ให้ได้มากที่สุดและตั้งเป้าจะติดท็อปเทนให้ได้

อย่างไรก็ตาม ถือว่าไม่ง่ายเลยทีเดียวเพราะในโซนท้ายตารางก็สู้กันขาดใจไม่แพ้กัน แต่เชื่อว่า อัลบอนที่มีเลือดนักสู้สายเลือดไทยอย่างเต็มตัวน่าจะโชว์ฟอร์มได้อย่างเต็มที่เพื่อเดินหน้าชนเป้าหมายที่ตัวเองตั้งเป้าเอาไว้ได้

ขณะเดียวกันปี 2023 ทาง “เอฟ วัน” ก็ได้เปลี่ยนกฎหลายอย่างก็เชื่อว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้การแข่งขันกลับมาคู่คี่สูสีกันอีกครั้ง

บอกได้เลยว่าศึกฟอร์มูล่า วัน ปีนี้จะเป็นอีกปีที่มีความเข้มข้นแน่นอน แชมป์เก่าก็ต้องทำงานหนักเพื่อป้องกันแชมป์ ส่วนผู้ท้าชิงก็เดินหน้าไล่ล่าเพื่อที่จะกระชากให้แชมป์กลับมาอยู่ในมือตัวเองให้ได้

หรือแม้ว่ากระทั่งโซนท้ายตารางก็ดุเดือดไม่แพ้กัน แม้ว่าจะไม่มีการตกชั้นเหมือนดังเกมฟุตบอล แต่ในโลกของการแข่งขันกีฬาคงไม่มีใครอยากรั้งตำแหน่งบ๊วยของตารางอย่างแน่นอน!!

ชานนท์ กล่ำดิษฐ์...เรื่อง