ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา วงการกีฬามีประเด็นใหญ่ๆจากผู้หญิงอยู่ 2 เรื่อง ทั้งที่ดังระดับโลก และดังไปทั่วไทย ในเวลาไล่เลี่ยกัน ส่วนจะเป็นใคร ฮอตสปอร์ต รวบรวมมาให้แฟนๆ กราวกีฬาไทยรัฐ ได้ทราบไว้เรียบร้อยแล้ว
เริ่มจากในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ปักกิ่ง 2022 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างเข้มข้น โดยที่ถูกโฟกัสมากที่สุด หนีไม่พ้นการคว้าเหรียญทองของ ไอลีน กู่ หรือ กู่ อ้ายหลิง นักกีฬาเจ้าภาพ ที่ได้แชมป์สกีฟรีสไตล์ไปเมื่อวันก่อน
ทำไมนักสกีสาว วัย 18 ปีคนนี้ ถึงโด่งดังไปทั่ว นั่นก็เพราะเธอเป็นลูกครึ่งจีน–อเมริกัน ที่ผันตัวจากนางแบบมาเล่นกีฬา เลือกรับใช้ทีมชาติจีน ประกอบกับความสามารถและรูปร่างหน้าตา ที่ใครเห็นก็ต้องย้อนกลับมามองอีกรอบ ส่งให้ได้รับความนิยมเพิ่มเข้าไปอีก
สำหรับกู่ อ้ายหลิง มีพ่อเป็นชาวอเมริกันและแม่เป็นชาวจีน เกิดเมื่อปี 2003 ที่ซานฟรานซิสโก พูดภาษาอังกฤษ และจีนได้อย่างคล่องแคล่ว เจ้าตัวเริ่มเล่นสกีตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เป็นแชมป์รุ่นจูเนียร์ของสมาคมสโนว์บอร์ดและสกีสหรัฐอเมริกา เมื่ออายุ 9 ขวบ ก่อนไต่ขึ้นสู่แรงกิ้งซีเนียร์ เมื่ออายุ 13 ปี และคว้าถ้วยเวิลด์ คัพ ครั้งแรกที่อิตาลี เมื่ออายุได้ 15 ปี
ปีเดียวกันนั้น นักสกีสาวรายนี้ ประกาศเลือกเล่นให้ทีมชาติจีน และหวังจะช่วยสร้างชื่อเสียงให้จีน ในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ จนมาประสบความสำเร็จในที่สุด
สาวน้อยนักสกีที่มีแผนจบการศึกษาจากซาน ฟรานซิสโก ยูนิเวอร์ซิตี้ ในปี 2026 มีผู้ติดตามทางเว่ยป๋อ สังคมออนไลน์ของจีนกว่า 2 ล้านคน และมีผู้ติดตามทางอินสตาแกรมกว่า 3 แสนคน ขณะที่ Tiktok มีกว่า 1 แสนคน ทั้งยังปรากฏในสารคดีทางโทรทัศน์ของรัฐบาลก่อนหน้านี้หลายเรื่อง
เล่นโฆษณากับสินค้าหลายแบรนด์ ทั้งธนาคารแห่งชาติจีน, ไชน่า โมบาย และ JD.com รวมทั้ง ได้ร่วมงานกับนิตยสารและแบรนด์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นหลุยส์ วิคตอง, ทิฟฟานี่ แอนด์ โค, โว้ก, แอล และลอฟฟิเชียล
ส่วนการแข่งขันครั้งนี้ ไอลีน กู่ ทำคะแนนในรอบสุดท้ายที่ 94.5 ลงสู่พื้นอย่างสมบูรณ์แบบ ทำแต้มได้รวม 188.25 คะแนน เบียดเทสส์ เลอดองซ์ จากฝรั่งเศส ที่ได้เหรียญเงิน และมาธิลด์ เกรมุนด์ จากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้เหรียญทองแดง
ชัยชนะครั้งนี้ ทำให้สื่อเจ้าภาพประโคมข่าวอย่างยิ่งใหญ่ และให้ฉายาเธอว่า “เจ้าหญิงหิมะ” ขณะที่เจ้าตัว ระบุว่า เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด ไม่อยากจะเชื่อว่า มันจะเกิดขึ้นจริง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอีกว่า หลังจากคว้าเหรียญทองดังกล่าว โลกโซเชียลในจีนถึงกับต้องชะงักไปชั่วคราว เนื่องจากผู้คนหลายสิบล้าน รีบเข้าอินเตอร์เน็ต เพื่อร่วมแสดงความยินดี โดยเฉพาะในเว่ยป๋อ มีการแสดงความคิดเห็นมากกว่า 90,000 ข้อความในเวลาเพียง 30 นาที
อีกทั้งแฮชแท็กที่เกี่ยวกับเหรียญทองของเธอ ก็มีคนเข้าไปชมกว่า 300 ล้านครั้งใน 1 ชั่วโมง จึงไม่แปลกที่เว่ยป๋อจะล่มไปช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว
ย้อนกลับมาอีกคน อยู่ในไทยของเรานี่เอง ซึ่งเรียกว่าดังและถูกพูดถึงในสื่อและโลกโซเชียล กันแบบถล่มทลาย พี่น้องทั่วประเทศอยู่เคียงข้างเธอ หลังจากถูกผู้ชายรังแกอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นสู้ เรียกศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงคืนมา
เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นกรณีของแพรพลอย แซ่เอี้ย วัย 24 ปี หรือที่รู้จักในวงการมวยไทย ในชื่อ “เพชรพลอย ขวาท่อนซุง” หรือ “แพรพลอย ม.กรุงเทพธนบุรี” ที่ถูกชายที่ไม่รู้จักมาขอชนแก้ว ระหว่างนั่งรับประทานอาหารกับเพื่อนย่านห้วยขวาง
แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่เล่นด้วย ก่อนที่ชายคนดังกล่าว ซึ่งรู้สึกเสียหน้าอย่างแรงจะอ้อมมาทางด้านหลัง แล้วราดน้ำใส่หัว ทำให้เธอไม่รอช้า ปรี่เข้าไปถามทำทำไม พร้อมกับใช้วิชาที่เรียนมาตอบโต้ กลับคืนไปทันที ก่อนที่เรื่องจะไปจบที่โรงพัก ทั้ง 2 ฝ่ายโดนปรับเงิน
ต้องถือว่าแจ็กพอตจริงๆ สำหรับชายคนดังกล่าว ที่มาเจอของจริง เจอผู้หญิงที่เป็นถึงอดีตนักมวย คว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันรายการต่างๆมานับไม่ถ้วน ทั้งในระดับกีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาแห่งชาติ กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย กีฬากองทัพบก และกีฬามหาวิทยาลัยโลก
ด้วยสถิติขึ้นเวทีทั้งหมด 50 ไฟต์ ชนะ 40 แพ้ 10 !!!
อีกทั้งปัจจุบัน เธอยังเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวให้กับผู้ที่สนใจ ติดต่อได้ทางไลน์ไอดี pare10330 และ ploy519 และยังเป็นครูผู้สอนวิชาป้องกันตัวให้กับนักเรียนตำรวจควบคู่กันไปอีกด้วย
แพรพลอยเปิดใจกับฮอตสปอร์ตว่า ตอนเด็กๆ อยู่แถวเยาวราช อายุ 15 ปี วิ่งเล่นแถวนั้น เห็นนักมวย ชายซ้อมมวยก็เลยอยากลองบ้าง ผู้หญิงก็น่าจะทำได้ เลยไปซ้อมอยู่ค่ายแถวบ้าน ซ้อมได้ 2-3 สัปดาห์ ก็ขึ้นชกในพิกัด 60 กก.ครั้งแรก โดนน็อกกลับมาไม่เป็นท่า
เลยคิดได้ว่า มวยไทยไม่ง่าย แต่ก็สู้ ตั้งหลักใหม่ ซ้อมจริงจังมากขึ้น เพราะเราเริ่มชอบกีฬานี้แล้ว จากนั้น ก็ทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆและเล่นกีฬานี้มาตลอด ตระเวนแข่งขันอยู่เสมอ ก่อนจะมาเลิกชกในช่วงที่จบปริญญาตรีที่ ม.กรุงเทพธนบุรี ซึ่งเป็นช่วงที่โควิดระบาดใหม่ๆ
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวจบไปแล้ว ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่ก็อยากสะท้อนให้เห็นว่า ชายหญิงเท่าเทียมกัน ไม่อยากให้สังคมมองว่า ผู้หญิงอ่อนแอ ผู้หญิงก็มีศักดิ์ศรี บางคนมีปัญหาในครอบครัวโดนซ้อมก็มีไม่น้อย
หากจะลุกขึ้นมาเรียนมวยไทย หรือศิลปะ ป้องกันตัวไว้ก็เป็นเรื่องดี เพื่อใช้ปกป้องตัวเองจากภัยสังคมที่ในปัจจุบันมีเยอะ ถ้ามีพื้นฐานไว้ ก็ไม่เสียหาย
นอกจากนี้ เธอยังทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า มวยไทย หรือศิลปะป้องกันตัว ควรมีการสอนในโรงเรียนให้กับเยาวชนได้แล้ว ดีกว่าไปสอนวิชากระบี่กระบอง ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยเกิดประโยชน์ นำมาใช้อะไรไม่ได้มาก
ก็ฝากถึงผู้เกี่ยวข้องให้ลองพิจารณาประเด็นนี้เอาไว้
ทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงตลอดสัปดาห์ ซึ่งต้องยอมรับว่ากู่ อ้ายหลิง นักสกีสาวลูกครึ่งจีน-อเมริกัน ดังไปทั่วโลกจริงๆ ส่วนแพรพลอย แซ่เอี้ย อดีตนักมวยไทยหญิงของเราก็ดังไปทั่วไทย
ไม่แพ้กันเลย...
กัญจน์ ศิริวุฒิ