หน้าแรกแกลเลอรี่

บทสรุป 8 เหตุการณ์ที่น่าจดจำแห่งวงการกีฬาโลก ปี 2021

ไทยรัฐออนไลน์

5 ม.ค. 2565 23:23 น.

8 เหตุการณ์ที่น่าจดจำทั้งเรื่องดีและไม่ดีแห่งวงการกีฬาโลกในปี 2021

ปี 2564 หรือปี 2021 ได้ผ่านไปแล้ว โดยมีเหตุการณ์สำคัญมากมายที่เกิดขึ้นในวงการกีฬาตั้งแต่ต้นปีจนวันสุดท้ายของปี โดยสรุปเหตุการณ์สำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2021

แหวนวงที่ 7 ของ ชายวัย 43 ปี

หากพูดถึงวงการอเมริกันฟุตบอล เป็นกีฬาที่เล่นกันหนักและแรง แต่หากพูดถึงเรื่องของความสำเร็จ ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า ทอม เบรดี ควอร์เตอร์แบ็กชื่อดัง คือ 1 ในคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในวงการ กับการคว้าแชมป์ 6 สมัยกับ นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์

เข้าสู่ปี 2020-21 เจ้าตัวสร้างเหตุช็อกวงการด้วยการย้ายออกจาก นิวอิงแลนด์ สโมสรที่ร่วมงานกันมามากถึง 20 ปี และย้ายมาอยู่กับ แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ ทีมที่ล้มเหลวมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่กลับกลายเป็นว่า การเข้ามาของ ทอม เบรดี ช่วยยกระดับทีมให้แกร่งขึ้น จนสามารถทะลุเข้าสู่รอบเพลย์ออฟได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี และพาทีมฝ่าด่านหินเข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี และสามารถเอาชนะ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ แชมป์เก่าในปีก่อนหน้านี้ไปแบบขาดลอย 31-9 คว้าแชมป์สมัยที่ 7 ให้กับตัวเองได้สำเร็จ และขึ้นแท่นเบอร์ 1 ของตำแหน่งควอร์เตอร์แบ็ก ตลอดกาล

นอกจากนี้ เจ้าตัวยังคงเดินหน้าต่อเนื่องในซีซั่นนี้ พาทีมเข้าสู่รอบเพลย์ออฟได้อีกครั้ง และปัจจุบันในวัย 44 ปี มีโอกาสที่จะคว้าแหวนแชมป์เป็นวงที่ 8 ในอาชีพ

อเล็กซานเดอร์ อัลบอน กลับสู่วงการรถสูตรหนึ่ง

แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต ทางเลียบ โดยเฉพาะๆ แฟนๆ ชาวไทย และแฟนๆ ทีมเรดบูลล์ เรซซิ่ง รู้ดีว่ามีการเปลี่ยนแปลงไลน์อัพจากปี 2020 โดย อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ นักขับลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ถูกถอดออกจากตำแหน่งตัวจริงจากผลงานที่ไม่ดีพอ และถูกแทนที่โดย เซร์คิโอ เปเรส ที่ย้ายมาจากทีมแอสตัน มาร์ติน

ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาแม้จะไม่ได้ลงขับในสนามจริงเลยแม้แต่รอบเดียว แต่การทำงานของ อัลบอน มีผลต่อชัยชนะของทั้ง แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน และ เซร์คิโอ เปเรส ในสนามจริง ชัยชนะทั้ง 11 ครั้งของทีม มีผลมาจากการขับในเครื่องทดลองของ "อัลบอน" ทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยทีมในการออกแบบรถรุ่นใหม่ของปี 2022

จนกระทั่งเดือนกันยายนที่ผ่านมา แฟนๆ ชาวไทยก็ได้รับข่าวดีเมื่อ วิลเลียม เรซซิ่ง เมอร์เซเดส ทีมกลางกริดของ F1 ดึงตัว อเล็กซานเดอร์ อัลบอน ไปร่วมทีมในปี 2022 และทำให้เจ้าตัวได้รับโอกาสกลับสู่ F1 อีกครั้ง และนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเจ้าตัวในการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับรถที่อาจจะไม่ได้ดีเท่าของ เรดบูลล์ เรซซิ่ง แต่เครื่องยนต์ของ เมอร์เซเดส เป็นที่น่าสนใจว่า หาก อัลบอน ได้ขับเครื่องที่เร็วที่สุดในสนามกับรถระดับกลาง จะดีกว่าเดิมหรือไม่

ดราม่า "เผิง ฉ่วย" ที่คนทั้งโลกเรียกร้อง

4 พฤศจิกายน 2564 เผิง ฉ่วย อดีตนักเทนนิสเจ้าของแชมป์แกรนด์สแลม 2 สมัย ได้ออกมาโพสต์ผ่านแอป Weibo ของจีน ซึ่งเปิดเผยว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรี จาง เกาลี ของจีนว่า บีบบังคับให้เธอมีเพศสัมพันธ์ด้วย

ในโพสต์ดังกล่าว ซึ่งเป็นจดหมายเปิดผนึกถึง จาง เกาลี่ ซึ่งเวลานี้มีอายุ 75 ปี ว่าเธอมีความสัมพันธ์กับอดีตนายกรัฐมนตรีจีนเป็นเวลานาน 10 ปี โดยเธอระบุว่า เธอเปิดใจให้กับจาง แต่อดีตรองนายกฯ บังคับให้เขามีเพศสัมพันธ์ด้วย ก่อนที่โพสต์นี้จะถูกลบออกไปพร้อมกับการหายตัวไปของเธอนานถึง 3 สัปดาห์ จนทั่วทั้งโลก โดยเฉพาะโลกแห่งกีฬาเทนนิส ออกมาโพสต์เรียกร้องให้เธอปรากฏตัว และยิ่งไปกว่านั้น สมาคมเทนนิสหญิง หรือ WTA ก็ได้แบนไม่จัดการแข่งขันในประเทศจีน ฮ่องกง และ มาเก๊า อย่างเด็ดขาด เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเธอ

จนกระทั่ง 3 สัปดาห์ผ่านไป ในวันที่ 21 พฤศจิกายน เธอปรากฏตัวต่อหน้าสื่ออีกครั้ง โดย เฉิน ฉิเว่ย นักข่าวของประเทศจีน โพสต์ภาพและคลิปลงในทวิตเตอร์ของเขา โดยเป็นภาพที่ เผิง ฉ่วย กำลังนั่งทานข้าวและหารือเรื่องต่างๆ กับเพื่อนและครอบครัวของเขา อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีรายงานอีกว่า เธอได้โพสต์ภาพลงใน WEChat ว่าเจ้าตัวได้อยู่ในบ้านพักของเธอ และเล่นกับแมวของเธอ พร้อมข้อความว่า "สุขสันต์วันหยุด" นอกจากนี้ ในวันเดียวกันเธอไปปรากฏตัวอยู่ในคอร์ตเทนนิส เปิดงานในรายการรุ่นเยาวชนอีกด้วย

และเหมือนว่าทุกอย่างจบไปแบบงงๆ จนกระทั่ง เผิง ฉ่วย ให้สัมภาษณ์กับ เหลียนเหอ เส่าเป้า ระหว่างออกงานที่นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา พร้อมปฏิเสธเรื่องที่เธอเคยกล่าวหา จาง เกาลี่ ว่า "ประการแรก ฉันต้องเน้นในจุดที่สำคัญว่าฉันไม่เคยพูดหรือเขียนข้อความใดๆ ว่ามีใครล่วงละเมิดทางเพศฉัน ฉันต้องเน้นประเด็นนี้ให้ชัดเจน"

"ที่ผ่านมามีความเข้าใจผิดมากมายเกิดขึ้นจากโพสต์นั้น ขอโทษที่อธิบายไม่ละเอียด ขณะที่การลบโพสต์เพราะว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนเรื่องที่ต้องได้รับการเฝ้าระวังนั้น ฉันสงสัยว่าทำไมใครๆ ถึงเฝ้าติดตามฉัน ในเมื่อฉันเป็นอิสระมาตลอด"

เป็นอันปิดฉากเรื่องดราม่าแบบงงๆ ว่าความจริงของเรื่องนี้คืออะไรกันแน่ และโพสต์ปริศนาที่เธอโพสต์ก่อนหายตัวไปนาน 3 สัปดาห์ ใครเป็นคนโพสต์

นักขับคนแรกของไทยและอาเซียน ที่ได้โอกาสลุย WRC

ถ้าพูดถึงวงการรถทางเลียบนักขับไทยที่มีชื่อเสียงคือ อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ แต่ถ้าหากพูดถึงวงการรถวิบากหรือ เวิลด์ แรลลี่ คนไทยอาจจะไม่รู้จักชื่อของ "เอส" นราศักดิ์ อิทธิริทพงษ์

จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา "ไดรเวอร์ ฮันเตอร์" ทีมจากเบลเยียม ที่เคยบินมาเพื่อทาบทามไปทดสอบฝีมือที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2019 และฝีมือเข้าตาฝรั่งจนในที่สุดผ่านเกณฑ์ และเข้าร่วมเป็นทีมนักแข่ง ที่ได้สิทธิ์ลงแข่งขันเวิลด์ แรลลี่ WRC-3 ในปีหน้า ซึ่งถือเป็นอีก 1 ความภาคภูมิใจของคนไทยจากเด็กที่ฝ่าฟันอุปสรรคมาตลอด 2 ทศวรรษ ในที่สุดก็ได้โอกาสเป็นนักขับคนแรกที่มาจากชาติอาเซียน ที่ได้ลุยศึกชิงแชม์โลกของรถวิบาก ซึ่งคาดว่าเจ้าตัวจะเริ่มแข่งขันในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้

ศึกของอดีต ผัว-เมีย ที่หวนกลับมาเจอกันบนโต๊ะสนุกเกอร์

16 สิงหาคม 2564 ในการแข่งขันสนุกเกอร์ รายการ บริติช โอเพ่น ซึ่งเป็นเวิล์ดสนุกเกอร์ นำกลับมาจัดแข่งขันอีกครั้งหลังจากที่เลิกจัดไปในปี 2004 ในรอบ 128 คนสุดท้ายเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ มาร์ค อัลเลน มืออันดับ 10 ของโลก โคจรมาพบกับ เรนเน่ อีแวนท์ นักสนุกเกอร์หญิง มือ 1 ของโลก ที่ได้สิทธิ์เล่นในการแข่งขันของผู้ชาย 

ฟังดูแล้วก็เหมือนกับการแข่งขันสนุกเกอร์แมตซ์หนึ่ง แต่หากย้อนกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อนในปี 2005 มาร์ค อัลเลน และ เรนเน อีแวนท์ เคยใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะสามี-ภรรยาที่รักกันมากและมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ก่อนที่ความรักจะจบลงในปี 2008 ทั้ง 2 คนแยกทางกันและได้มีปัญหากันในภายหลังที่ไม่สามาถตกลงกันได้เรื่องค่าเลี้ยงดูบุตรสาว และต่างฝ่ายต่างไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่วันนั้น 

ทั้ง 2 คนถูกจับสลากให้มาพบกันในรอบ 128 คน ของบริติช โอเพ่น และเป็นธรรมเนียมที่จะต้องมีการจับมือกันช่วงเริ่มเกม ผลปรากฏว่า ฝ่ายหญิงเมินเฉยต่อการจับมือครั้งนี้ ปล่อยให้ อัลเลน หน้าแตกท่ามกลางผู้ชมและการถ่ายทอดสด

ในเกมการแข่งขัน อีแวนท์ ขึ้นนำ 2-1 เฟรม และทำท่าว่าจะปิดแมตช์นี้ไปได้ แต่ไปพลาดแดงก่อนที่ อัลเลน จะกลับมาปิดเฟรม 4 ได้ เสมอกัน 2-2 และต้องตัดสินในเฟรมสุดท้าย ซึ่งตามธรรมเนียจะต้องมีการจับมือกันอีก 1 ครั้ง แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น และเป็น อัลเลน ที่แทงเบรก 68 แต้ม ปิดแมตช์ไปได้ ซึ่งเมื่อจบเกมแน่นอนว่าทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่มีการมองหน้าหรือทักทายกันแต่อย่างใด และแยกย้ายเดินออกจากการแข่งขันไป

แชมป์โลก MOTO-GP 7 สมัย ประกาศรีไทร์จากวงการหันหัวเป็นนักสร้างทีม

หากพูดถึงแชมป์โลกในวงการมอเตอร์สปอร์ต ฝั่ง ฟอร์มูลา วัน แชมป์โลก 7 สมัย มี 2 คนคือ มิคาเอล ชูมัคเกอร์ และ เซอร์ ลูอิส แฮมิลตัน แต่ถ้าหากพูดถึงวงการ 2 ล้อ หรือ โมโต จีพี 1 ในคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ ชายสัญชาติอิตาลี ที่ชื่อว่า วาเลนติโน รอสซี แชมป์โลก 7 สมัย ได้ประกาศว่าปี 2021 จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายในอาชีพของเขา

โดยเจ้าตัวเริ่มแข่งขันตั้งแต่ปี 1996 ในรุ่น 125 ซีซี ก่อนจะใช้เวลา 4 ปี ไต่ขึ้นสู่รุ่นใหญ่สุด หรือ MotoGp ตลอดเส้นทางอาชีพ แข่งขันไปทั้งหมด 372 เรซ ชนะ 89 ครั้ง ขึ้นโพเดียม 199 ครั้ง คว้าตำแหน่งโพล(กริดสตาร์ทอันดับ 1) 55 ครั้ง และทำแต้มได้ทั้งหมด 5,415 คะแนน ปิดฉากตำนานอาชีพไปเยี่ยงตำนาน

แต่แฟนๆ 2 ล้อ จะไม่ต้องเศร้า ชายผู้นี้ไม่ได้หายไปไหน ในปีหน้าเขาจะเริ่มทำทีมเป็นของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่า VR46 Racing Team

จากม้ามืดสู่แชมป์แกรนด์สแลมของ เอ็มมา ราดูคานู

ศึกเทนนิส แกรนด์สแลมสุดท้ายของปี 2021 ในรายการ ยูเอส โอเพ่น เอ็มมา ราดูคานู นักหวดสาววัย 18 ปี มืออันดับ 150 ของโลก จากสหราชอาณาจักร ที่เริ่มทัวร์นาเมนต์ด้วยการต้องคัดเลือกฝ่าฟันเพื่อจะเข้าแข่งขันในรายการนี้ และเข้ามาแข่งขันในรายการนี้ด้วยการถูกมองว่าเป็นเพียงไม้ประดับรายการ

แต่เมื่อเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ เธอฝ่าคู่แข่ง ทั้ง 126 คน เข้าสู่รองชิงชนะเลิศ ก่อนจะมาพบกับ เลย์ลาห์ เฟอร์นันเดซ ดาวรุ่งวัย 19 ปี มืออันดับ 73 ของโลก จากแคนาดา ซึ่งผลปรากฏว่า เอ็มมา ราดูคานู โชว์ฟอร์มได้เหนือกว่าเยอะ ก่อนจะเอาชนะ เลย์ลาห์ เฟอร์นันเดซ ไปได้แบบไม่ยากเย็น 2-0 เซต 6-4 และ 6-3 คว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น มาครองเป็นสมัยแรกได้สำเร็จ และกลายเป็นนักหวดจากสหราชอาณาจักรคนแรกที่คว้าแชมป์ประเภทเดี่ยวของ ยูเอส โอเพ่น ในรอบ 44 ปี ซึ่งแชมป์นี้ทำให้เธอกระโดดขึ้นสู่อันดับ 19 ของโลก ในชั่วพริบตา และ ยูเอส โอเพ่น 2021 เป็นเหมือนเทพนิยายของเธอโดยแท้จริง

"ลูอิส แฮมิลตัน" ถูกหยุดโอกาสคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 8 ในรอบสุดท้ายของสนามสุดท้าย

ปี 2021 ถือเป็นอีก 1 ปีที่น่าติดตามชมของวงการรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก หรือ ฟอร์มูลา วัน กรังด์ปรีซ์ ถือเป็นปีที่ 2 ที่ต้องแข่งขันภายใต้มาตรการโควิด-19 ซึ่งตัวเต็งแชมป์โลกของปีนี้ เป็นการดวลกันระหว่างแชมป์โลก 7 สมัย อย่าง ลูอิส แฮมิลตัน จากทีม เมอร์เซเดส และ แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน จากทีม เรดบูลล์ เรซซิ่ง ฮอนด้า

ตลอดทั้งปีทั้ง 2 คนผลักดันกันและกันจนถึงที่สุด ผลัดกันนำ ผลัดกันตาม จนกระทั่งทำคะแนนมาเสมอกันที่ 369.5 คะแนน และต้องตัดสินกันในสนามสุดท้ายที่ ในรายการ อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ ที่สนามยาส มารินา เซอร์กิต ที่เมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา

แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน ในรถ RB16B ออกสตาร์ตด้วยยางซอฟฟ์ (ยางที่เร็วที่สุด แต่มีระยะการใช้งานสั้น) ขณะที่ ลูอิส แฮมิลตัน ในรถ W12 ออกสตาร์ตด้วยยางมีเดียม(ยางที่มีสมดุลทั้งการความเร็วและระยะการใช้งาน) ในรอบแรก ลูอิส แฮมิลตัน ขับขึ้นไปนำได้ตั้งแต่โค้งแรก และสามารถนำการแข่งขันได้จนเกือบจะจบการแข่งขัน

จนกระทั่งเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อในรอบ 52 ของการแข่งขัน นิโกลัส ลาติฟี จากทีมวิลเลียม เรซซิ่ง เมอร์เซเดส ไปชนกำแพงในช่วงโค้ง 13 จนทำให้ต้องมีรถ เซฟตี้ คาร์ ออกมาเคลียร์พื้นสนามจากช่องว่างที่ แฮมิลตัน นำอยู่ 12 วินาที ถูกกำจัดหายไปและเหลือเพียง 0.5 วินาที และใช้เวลาถึง 5 รอบในการเคลียร์พื้นผิวและอนุญาตให้แข่งขันต่อ ซึ่งเหลือเพียงแค่อีก 1 รอบสุดท้ายเท่านั้น ที่จะตัดสินทุกอย่าง และในที่สุด แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน ก็แซงขึ้นไปได้ในโค้งที่ 5 ในรอบ 58 และเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก ชนะการแข่งขันในสนามนี้ นอกจากจะเป็นสนามที่ 10 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้แล้วนั้น ยังเป็นแชมป์โลกสมัยแรกของเจ้าตัวอีกด้วย

นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ลูอิส แฮมิลตัน หายเข้ากลีบเมฆ และไม่โผล่มาบนโซเชียลแม้แต่ครั้งเดียว และยังคงมีกระแสต่อเนื่องจากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ เจ้าตัวกำลังมีแผนการที่จะเลิกแข่งขันอย่างเป็นทางการ และต้องติดตามกันต่อไปว่า ปี 2022 ลูอิส แฮมิลตัน จะยังอยู่บน F1 หรือไม่