ไทยรัฐออนไลน์
"อ้อย" อรสา เที่ยงกระโทก ยอมรับไม่พอใจเวลาต่ำกว่าที่คาด พร้อมเผยสาเหตุที่อดเข้ารอบรองชนะเลิศ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิต
วันที่ 4 ส.ค. 64 การแข่งขันเรือแคนู โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นการแข่งประเภทสปรินท์ ระยะ 200 ม. หญิง รอบแรก แบ่งออกเป็น 5 ฮีต ซึ่งจะคัดนักกีฬาที่ทำผลงานดีใน 2 ลำดับแรกของแต่ละฮีตเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ส่วนนักกีฬาที่เหลือจะต้องไปแข่งในรอบก่อนรองชนะเลิศ เพื่อแก้ตัวชิงโควตาเข้ารอบรองชนะเลิศอีกครั้ง
สำหรับผลการแข่งขันรอบแรก "อ้อย" อรสา เที่ยงกระโทก นักกีฬาไทยลงแข่งในฮีตที่ 3 ผลปรากฏว่า เข้าเส้นชัยในลำดับที่ 5 ด้วยเวลา 48.262 วินาที ต้องไปแข่งในรอบก่อนรองชนะเลิศเพื่อแก้ตัวใหม่ ซึ่งในรอบก่อนรองฯ แบ่งนักกีฬาออกเป็น 3 ฮีต คัดเอาที่ 1-2 ของฮีตเข้ารอบรองชนะเลิศ อรสา อยู่ฮีต 1 เข้าเส้นชัยเป็นคนที่ 5 ด้วยเวลา 48.559 วินาที แก้ตัวไม่สำเร็จ ไม่สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้ และจบการแข่งขันในอันดับที่ 23 ของรายการนี้
หลังการแข่งขัน อรสา กล่าวว่า ยังไม่ค่อยพอใจกับเวลาที่ทำได้ในครั้งนี้ ถือว่าต่ำกว่าที่คาดหวังไว้ โดยปัจจัยในวันนี้มาจากปัญหาเรื่องสภาพลมที่ทำให้ส่งผลต่อการพายที่ผิดเพี้ยนไป และก่อนแข่ง 2 สัปดาห์ ตนก็พยายามปรับเทคนิคแก้ไขเพื่อลดผลกระทบในจุดนี้แล้ว แต่ก็มีหยุดซ้อมไปช่วงหนึ่งที่โค้ชคุมทีมไปแข่งขันที่รัสเซีย ทำให้ไปเน้นการเล่นเวทและวิ่ง เพื่อพัฒนาระบบหัวใจ ส่งผลให้ลืมเทคนิคการพายไปบ้าง และส่งผลกระทบต่อเวลาที่เคยทำได้ดีกว่านี้ และครั้งนี้เป็นโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกยอมรับว่าตื่นเต้นมาก
"โอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกของตัวเอง ยอมรับมีอาการประหม่าและตื่นเต้นพอสมควร โดยเฉพาะรอบแรก มีอาการสั่น แต่ก็พายต่อไปได้แม้ตัวเองจะสั่น รอบที่ 2 รู้สึกว่ามีสมาธิมากขึ้น แต่ก็พลาดตรงการออกตัว ซึ่งหลังจากนี้ก็คงต้องกลับไปแก้ไขข้อผิดพลาดและจะไม่หยุดซ้อม เพราะตอนนี้ก็มีความฝัน อยากจะกลับไปแก้ตัวที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในโอลิมปิกเกมส์ 2024" อรสา กล่าว.